บล.บัวหลวง: 

Jasmine Broadband Internet Infrastructure Fund (JASIF TB/JASIFU.BK)

JASIF – การไม่อนุมัติวาระที่ 1.2 นำไปสู่เงินปันผลต่อหน่วยที่ยังคงมั่นคงในระยะยาว

เนื่องจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ไม่ยอมรับการแก้ไขสัญญาเช่าในวาระที่ 1.2 เราจึงมองว่าเงินปันผลต่อหน่วยของ JASIF จะยังคงมั่นคงต่อไปในระยะยาวจนถึงเดือนม.ค. ปี 2575 บวกกับสมมติฐานการต่ออายุสัญญาประกันรายได้ทุกๆ 3 ปีไปเรื่อยๆ เรามองว่าราคาต่อหน่วยที่ปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้าจึงถือว่าเป็นโอกาสสําหรับการซื้อเก็งกำไรอีกครั้งหนึ่ง

อนุมัติวาระที่ 1.1 และ 1.3 แต่ไม่อนุมัติวาระที่ 1.2

การประชุมสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ประกอบด้วย 3 วาระ ได้แก่ วาระที่ 1 (พิจารณาอนุมัติให้ JAS ดำเนินการขายหน่วยลงทุนใน JASIF และหุ้น TTTBB ให้แก่ AWN การผ่อนผันหรือแก้ไข รายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวผู้สนับสนุนจาก JAS ไปเป็น AWN และการแก้ไขในเรื่องข้อห้ามการแข่งขันกับกองทุนรวม) วาระที่ 1.2 พิจารณาอนุมัติรายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเช่าและค่าเช่า เส้นใยแก้วนำแสง และการยกเลิกสัญญาประกันรายได้ค่าเช่าและสัญญาให้บริการจัดหาผู้เช่าทรัพย์สิน และการเพิ่มค่าเช่าล่วงหน้าที่ TTTBB ตกลงชำระให้ JASIF) และวาระที่ 1.3 (พิจารณาอนุมัติแก้ไขรายละเอียดบางประการที่เกี่ยวข้องกับสัญญา ข้อตกลงดำเนินการ และยกเลิกสัญญาบัญชีธนาคาร) ซึ่งการอนุมัติแต่ละวาระจำเป็นต้องใช้เสียงที่เห็นชอบอย่างน้อย 3 ใน 4 จากจํานวนหน่วยทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน

ถ้าอ้างอิงจากผู้ถือหน่วยลงทุน 1,093 รายที่เข้าร่วมประชุมด้วยตัวเอง และโดยการมอบฉันทะจํานวน 3.61 พันล้านหน่วย หรือคิดเป็นเท่ากับ 45.1% ของจํานวนหน่วยลงทุนทั้งหมด (ที่ไม่รวม JAS ที่ถือ 19% และกองทุนอื่นๆ ที่ถือ อยู่ 0.13%) 82.9% ลงคะแนนเสียงเห็นชอบสําหรับวาระที่ 1.1 ในขณะที่ 78.96% ลงคะแนนเสียงเห็นชอบสําหรับวาระที่ 1.3 แต่มีเพียงแค่ 69.15% ที่ลงคะแนนเสียงเห็นชอบสําหรับวาระที่ 1.2 (ซึ่งต่ำกว่า 75% ที่เป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ) ซึ่งนั่นหมายถึงวาระที่ 1.2 ไม่ได้รับการอนุมัติ

สําหรับ JASIF หมายถึงอะไร?

ผลของคะแนนเสียงดังข้างต้น หมายถึงผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF สนับสนุนให้ ADVANC เป็นผู้สนับสนุนหลักแทนที่ JAS ด้วยความเต็มใจที่จะยกเลิกสัญญาข้อกําหนดต่างๆ ทางการเงิน (เนื่องจากสถานะเครดิตที่แข็งแกร่งของ ADVANC) แต่ ADVANC จะต้องจ่ายค่าเช่าตามจำนวนที่กำหนดในสัญญาเช่าหลัก และสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า เรามองว่า ADVANC คงต้องคิดหนักว่าจะยังคงต้องการซื้อ TTTBB และ JASIF หรือไม่ โดยจ่ายอัตราค่าเช่าเดิมให้กับ JASIF ถ้าอ้างอิงจากผู้บริหารของ ADVANC ทั้ง 3 วาระจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุนใน JASIF ซึ่งหากไม่ผ่านแม้แต่วาระใดวาระหนึ่ง อาจจะพิจารณาไม่เข้าซื้อทั้ง TTTBB และ JASIF เนื่องจากคงเป็นการยากที่จะจ่ายในรูปผลตอบแทนอัตราเงินปันผลที่สูงถึง 10-11% ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน

JASIF เทียบกับอัตราดอกเบี้ยสําหรับเงินกู้ยืมธนาคารเพียงแค่ 4-5% ภายใต้สมมติฐานว่าดีลนี้ถูกยกเลิก เรามองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของ JASIF แต่อย่างใดในแง่ของรายได้ค่าเช่าสำหรับสัญญาเช่าหลัก (ตลอดจนสิ้นสุดเดือนม.ค. ปี 2575) และสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า (สิ้นสุดเดือนพ.ย. ปี 2558 และใช้สมมติฐานการต่ออายุสัญญาประกันรายได้ออกไปทุกๆ 3 ปี) และเงินปันผลต่อหน่วย ทั้งนี้ราคาเป้าหมาย JASIF จากวิธี DCF ของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 12.6 บาท

ความเสี่ยงในแง่ของการจ่ายค่าเช่าของ TTTBB ในอนาคต

ถ้าอิงกับประมาณการ EBITDA ของ TTTBB ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท/ปี ในปี 2565 เรามองว่า EBITDA ของ TTTBB ยังคงสามารถจ่ายค่าเช่าให้แก่ JASIF จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท/ปี ได้ และจ่ายภาระดอกเบี้ยจ่ายบางส่วนได้ ซึ่งภาระดอกเบี้ยจ่ายคิดเป็น 3.5 พันล้านบาท/ปี ดังนั้นบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพิ่มเติม ทำการรีไฟแนนซ์ภาระหนี้ หรือเพิ่มทุนเพื่อให้สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เหลือและเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท และหากว่า TTTBB สามารถทำได้อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น เราจึงไม่เห็นว่า TTTBB จะมีปัญหาในการชำระค่าเช่าให้แก่ JASIF

- Advertisement -