บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

BANGKOK ASSET MANAGEMENT ราคาซึมซับข่าวร้ายมากเกินไปทำให้ Downside ต่ำ

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) 33.8%

Close Aug 2, 2021 Price (THB) 16.00

12M Target (THB) 24.50

Previous Target (THB) –

What’s new?

  • คาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 728 ลบ. โตเด่น 436.9%YoY และ 194.8%QoQ หนุนด้วย รายได้ดอกเบี้ยรับจากลูกหนี้ปรับโครงสร้างท่ีเพิ่มขึ้น บวกกับรายได้ท่ีไม่ใช่ดอกเบี้ยท่ีโตเด่นหลังยอดขาย NPA เร่งตัวขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนทรัพย์ราคาพิเศษ และเพิ่มช่องทางขาย Online รวมถึงมีการบันทึกกำไรจากการขาย NPA ก้อนใหญ่ที่ได้ขายไปแล้วในปีก่อน (แบ่งชำระ 2 งวด) มูลค่า 450 ลบ.

Our View

  • ช่วงท่ีผ่านมาราคาหุ้น BAM ปรับตัวลงแรงกว่า 26.9%YTD จนใกล้จุด All Time Low หลังผลดำเนินงาน 1Q64 แย่กว่าคาด และมีผลกระทบจากการปิดกรมบังคับคดีในช่วงท่ีเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเรามองว่าราคาในปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบไปมาก อีกทั้งในช่วงสั้นคาดมีแรงหนุนจากผลดำเนินงานใน 2Q64 ท่ีโตเด่น ทำให้เราคงคาแนะนำ “ซื้อ” โดย มี Upside 23.8% หลังปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ท่ี 24.50 บาท และคาดให้ Div.Yield อีก 3.3%

คาดกำไร 2Q64 โตเด่น 436.9%YoY และ 194.8%QoQ หลังรับชำระ NPA รายใหญ่

เราคาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 728 ลบ. โตเด่น 436.9%YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากทั้งการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ปรับโครงสร้างและยอดขาย NPL และ NPA ที่ลดลงมาก และคาดโต 194.8 QoQ โดยมีปัจจัยบวกหลักจากยอดจัดเก็บเงินสดที่คาดเติบโตดีหนุนด้วย 1) ปริมาณลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามแผนเพิ่มแรงจูงใจในการเจรจาเพื่อขยายฐานรายได้ที่เป็น Recurring Income ทำให้คาดรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิจะขยับขึ้น 0.6%QoQ 2) คาดรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดโต 56.7%QoQ หลังมีผลบวกจากการเพิ่มส่วนลดเพื่อจูงใจให้ลูกหนี้ NPL ขนาดกลางและขนาดเล็กเร่งจ่ายชำระบัญชีเพื่อปิดบัญชีหนี้บวกกับยอดขาย NPA ที่ยังมีการเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน จากจุดเด่นในเรื่องของราคาที่ปรับลดลงมามากกว่าปกติภายใต้โครงการทรัพย์ราคาพิเศษและการเพิ่มช่องทางการขายผ่านทาง Online มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีกำไรจากการขายทรัพย์ NPA รายใหญ่ที่มีการปิดการขายในปีก่อนและถึงกำหนดจ่ายชำระเงินงวดที่ 2 จำนวน 450 ลบ. ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแม้ปรับเพิ่มขึ้นตามค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขาย NPL และ NPA แต่คาดยังถูกควบคุมได้ดีทำให้ Cost to Income Ratio คาดจะปรับลดลงเหลือ 23% จาก 27.7% ใน 1Q64

คาดผลดำเนินงานชะลอตัวลงใน 3Q64 ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นใน 4Q64

กำไรสุทธิใน 1H64 หากเป็นไปตามคาดจะคิดเป็น 45.9% ของประมาณการทั้งปี โดยเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิจะปรับลง QoQ สู่ระดับ 300-400 ลบ. ใน 3Q64 จากฐานที่สูงใน 2Q64 ที่มีการรับชำระเงินค่าทรัพย์ NPA ก้อนใหญ่ รวมถึงคาดเริ่มเห็นผลกระทบของการแพร่ระบาดรอบใหม่ที่ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการเจรจาปิดบัญชีหนี้ NPL มากขึ้น อีกทั้งมีผลลบจากการปิดกรมคับคดีที่ทำให้การรับรู้รายได้จากการประมูลขาย NPL ทำได้ช้าลง ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวขึ้นเด่นอีกครั้งใน 4Q64 ตามผลของฤดูกาลซึ่งจะเกิดการเร่งปิดบัญชีหนี้ NPL และการเร่งขายทรัพย์ NPA หนุนให้ยอดจัดเก็บเงินสดของลูกหนี้ NPL และ NPA จะเร่งตัวสูงขึ้นมาก เราจึงคงประมาณการเดิมโดยคาด BAM จะมีกำไรสุทธิในปี 2564 ราว 2,122 ลบ. โต 15.3%YoY

ราคาหุ้นมี Downside ต่ำ และมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากกำไร 2064 จึงแนะนำ“ ซื้อ”

ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น BAM ปรับตัวลงแรงกว่า 26.9% YTD จนใกล้จุด All Time Low หลังผลดำเนินงาน 1Q64 แย่กว่าคาด และมีผลกระทบจากการปิดกรมบังคับคดีในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเรามองว่าราคาในปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และเป็นราคาที่มี Downside จำกัด อีกทั้งในช่วงสั้นคาดมีแรงหนุนจากผลดำเนินงานใน 2Q64 ที่โตเด่นจากการรับรู้กำไรจากลูกหนี้ NPA รายใหญ่ ทำให้เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมี Upside 23.8% หลังปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2565 ที่ 24.50 บาท และคาดให้ Div.Yield อีก 3.3%

 

- Advertisement -