ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
เทรดในกรอบแคบๆ ต่อไป… ปัจจัยต่างประเทศไม่ชัดเจน
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคาร เทรดไซด์เวย์ต่อ…. หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (ก่อนหยุดยาว 3 วัน) ตลาดหุ้นไทยทรงตัวในกรอบแคบๆ (ตามคาด)… ขณะที่ช่วงหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมา ปัจจัยเศรษฐกิจในฝั่งตะวันตกเป็นบวกต่อตลาดการเงินมากขึ้น แต่จะถูกหักล้างโดยปัจจัยลบในฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะประเด็นในจีน… ทั้งนี้ปัจจัยบวกในฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ได้แก่ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์แรงเมื่อวันศุกร์และเมื่อวานนี้ หลังจากผู้ว่าการเฟด 2 ท่าน (Charles Evans สาขาชิคาโก และ Mary Daly สาขาซานฟรานซิสโก) ชี้ว่าดอกเบี้ยเฟดน่าจะปรับขึ้นได้อีกไม่มากนัก และเฟดต้องระมัดระวังการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป (over-tightening) ขณะที่ตัวเลข flash PMI เดือน ต.ค. ต่ำกว่าที่ consensus คาดค่อนข้างมาก ส่งผลให้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ปรับลด terminal Fed Fund Rate เหลือ 4.75-5.00% จาก เดิม 5.00-5.25% ii) ตลาดหุ้นยุโรปและอังกฤษฟื้นตัวได้ดีเมื่อวานนี้ หลังจากนาย Rishi Sunak อดีต รมว. คลัง น่าจะได้รับเลือกเป็นนายกฯ อังกฤษคนใหม่ ซึ่งตลาดมองว่านโยบายเศรษฐกิจของนาย Sunak มีความระมัดระวังด้านการคลัง และน่าจะเป็นบวกต่อตลาด… อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงลดลงค่อนข้างแรง หลังจากการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนสนับสนุนการดำรงตำแหน่งต่อของ ปธน. สี จิน ผิง และไม่มีการส่งสัญญาณถึงการคลายนโยบาย COVID-19 และนโยบายกับประเทศฝั่งตะวันตกแต่อย่างใด ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดหุ้นเอเชียถูกกดดันในช่วงสั้น และจำกัดทางขึ้นของ SET Index… ด้านปัจจัยภายในประเทศ ก.พาณิชย์มีกำหนดรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าเดือน ก.ย. ในวันนี้ ซึ่ง Consensus คาดยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 4.5% YoY ขณะที่นำเข้าโต 20% YoY
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร ERW, SCB*, TLI
- ERW (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.4 บาท / แนวต้าน 4.54 – 4.66 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.8 บาท (Stop loss 4.3 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยจากการเปิดประเทศ และคาดภาครัฐฯ เตรียมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า หนุนแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 – 1Q66 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาด EBITDA เริ่มพลิกเป็นบวกแล้วในปีนี้ และคาดปีหน้า EBITDA ฟื้นสู่ระดับ +2 พันล้านบาท (ระดับก่อนวิกฤติโควิด-19)
- SCB* (เป้าพื้นฐาน 152 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 105 บาท / แนวต้าน 109 – 113 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 120 บาท (Stop loss 103.5 บาท) 2) รายงานกำไร 3Q65 ตามคาด และเราคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการขึ้นอัตราดอกเบี้ย (เป็นบวกต่อ NIM หรือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย) 3) คาด Sentiment บวกจากการเตรียมปรับโครงสร้าง บ.ลูก ในเครือ โดยล่าสุดบริษัท CardX (บ.บัตรเครดิต) เตรียมโอนธุรกิจจาก SCB ภายในเดือน ธ.ค.นี้ (คาดหวังการเตรียม Spinoff หุ้น บ.ลูกเข้าตลาดฯ) 4) PBV 0.8 เท่า ขณะที่คาด ROE ปี 2565 – 66 คาดทยอยฟื้นตัวเป็น 9% และ 9.5% ตามลำดับ
- TLI (เป้าพื้นฐาน 19.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.1 บาท / แนวต้าน 15.6 – 16.1 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 16.5 บาท (Stop loss 14.9 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานแรง ขณะที่ i) อัตราผลตอบแทนพันธบัตร Bond yield ยังเร่งตัวขึ้นเป็น Sentiment บวกต่ออัตราผลตอบแทนการลงทุนของธุรกิจประกันฯ ii) เริ่มเข้าสู่ High season ปลายปี ของธุรกิจขายประกันฯ (ลดหย่อนภาษี) 3) Consensus คาดกำไรปีหน้าโต +12.4% YoY เป็น > 1 หมื่นล้านบาท Forward PE ปี 2565 – 66 เท่ากับ 18.4 เท่า และ 16.9 เท่า ตามลำดับ
หุ้นมีข่าว
(+) BCPG* ใกล้ลุยแบตอีวี จริงจังคาร์บอนเครดิต (ทันหุ้น) BCPG จ่อลงสนามแบตเตอรี่อีวี อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรมีชื่อเสียงเข้ามาร่วมทุนในการทำโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน คาดชัดเจน 2566 พร้อมเดินหน้าประมูลไฟฟ้าพลังงานทดแทนภาครัฐ วางเกมใหญ่ธุรกิจคาร์บอนเครดิต พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขาย เป้าสู่ Net Zero เร่งด่วนปี 2030
(+) PTTEP* เร่งผลิตก๊าซเอราวัณ ครบ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตปี 67 “มนตรี” ย้ำปีนี้ผลงานเติบโต รับราคาก๊าซ-น้ำมันพุ่ง (ข่าวหุ้น) “ปตท.สผ.” เร่งติดตั้งแท่นผลิต ดันกำลังการผลิตแหล่งเอราวัณตามสัญญา 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ภายในเม.ย. 67 พร้อมเจรจากรมเชื้อเพลิงธรรมชาติยึดสัญญาออกไป 2 ปี “มนตรี” ย้ำปีนี้ผลงานยังเติบโตจากราคาก๊าซ-น้ำมันดีดตัว ขณะที่เป้ายอดขาย 4.65 แสนบาร์เรลต่อวัน
(+) AMATA* มั่นใจปี 65 ยอดขายที่ดินพุ่ง 1 พันไร่ (ไทยโพสต์) “อมตะ” โชว์ตุน Backlog 5.17 พันล้าน บาท ทั้งในไทย-เวียดนาม ฟุ้งไตรมาส 4 จ่อเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินอื้อ หลังนักลงทุนให้ความสนใจต่อเนื่อง มั่นใจทั้งปี 2565 ยอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมวิ่งฉลุยตามเป้าหมายที่ 1 พันไร่
(+) SIMAT สบช่องจับมือพันธมิตรต่อยอดพลังงาน (ทันหุ้น) SIMAT จับมือ “อัลติโม เอนเนอร์ยี” ตั้งบริษัท “เนเชอรัล เพาเวอร์ เอ็นเนอร์จี” ลุยธุรกิจพลังงานทดแทนจำหน่ายไฟฟ้า ฟาก “บุญเลิศ เดี๋ยวพรชัย” ระบุการร่วมทุนในครั้งนี้ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ หนุนผลงานเติบโตมั่นคงในระยะยาว
(+) VL วอลุ่มขนส่งเรือแน่น ควัก 500 ล้านซื้อเรือใหม่ (ทันหุ้น) VL โชว์วอลุ่มขนส่งทางเรือพุ่ง 90% จากก่อนหน้าที่ 60% หลังดีมานด์สินค้าทะลัก รุกเกาะติดต้นทุนน้ำมันใกล้ชิด พร้อมรักษามาร์จิ้นไม่ต่ำกว่าปีก่อน 16.87% ด้านผู้บริหารเตรียมควักงบลงทุน 500 ล้านบาท ซื้อเรือใหม่ 2 ลำ เพิ่มกองเรือปัจจุบันที่มีน้ำหนักบรรทุก 3.8 หมื่นเดตเวตตัน
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) แนวรับ 19.1 บาท / แนวต้าน 20.0-20.2 บาท หากผ่านได้ แนะนํา “Let profit run” (Trailing stop 18.6 บาท)
- AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) แนวรับ 5.65 บาท / แนวต้าน 5.8-5.9 บาท (Trailing stop 5.5 บาท)
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 57.75 บาท / แนวต้าน 59-61 บาท (Trailing stop 56 บาท)
- M (เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท) แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 60-62 บาท (Trailing stop 57 บาท)
- BBL* (เป้าพื้นฐาน 159 บาท) แนวรับ 141 บาท / แนวต้าน 145-149 บาท (Trailing stop 138.5 บาท)
- ILM (เป้า Consensus 22.4 บาท) แนวรับ 17.0 บาท / แนวต้าน 17.4-17.9 บาท (Stop loss 16.4 บาท)
- TU* (เป้า Consensus 22.3 บาท) แนวรับ 18.6 บาท / แนวต้าน 19.3-20.0 บาท (Stop loss 18 บาท)
- PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) แนวรับ 7.05 บาท / แนวต้าน 7.3 – 7.55 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- SPALI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 24 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q65 = 2.6 พันล้านบาท (+50% YoY, +24% QoQ) โดยกำไรที่ดีขึ้น เป็นผลจากยอดโอนโครงการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโครงการใหม่ ทั้งนี้คาดผลการดำเนินงาน 4Q65 จะชะลอตัวลง YoY จากฐานสูงในปีก่อน ทั้งนี้มีโอกาสที่ SPALI จะตัดสินใจลดทุนจดทะเบียน จากหุ้นทุนซื้อคืน ซึ่งจะทำให้ประมาณการ EPS มี Upside เพิ่มขึ้น +9%
- IRPC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 3 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดจะรายงานผลขาดทุนสุทธิ 2.5 พันล้านบาท ใน 3Q65 พลิกจากที่เคยกำไรในไตรมาสก่อนหน้า และใน 3Q64 โดยเป็นผลจากขาดทุนสต๊อก และ Spread ปิโตรเคมีที่แย่ลง ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ และราคาเป้าหมายลงเป็น 3 บาท (เดิม 3.5 บาท)
- KBANK* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 188 บาท รายงานกำไร 3Q65 = 1.06 หมื่นล้านบาท (-2% QoQ, +23% YoY) ต่ำกว่าคาด -5% ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประมาณการฯไว้ตามเดิม แต่จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองผู้บริหารค่อนข้างเป็นลบต่ออัตราการเติบโตของสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่ Credit cost สูงกว่าคาดไว้เดิม ยังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเล็กน้อยเป็น 188 บาท (เดิม 198 บาท) จากการปรับสมมติฐานเป้าหมาย PBV
- SCB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 134 บาท รายงานกำไร 3Q65 = 1.03 หมื่นล้านบาท (+3% QoQ, +17% YoY) ตามคาด แต่ต่ากว่า Consensus คาดเล็กน้อย ฝ่ายวิจัยฯ คงคําแนะนํา “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 134 บาท (เดิม 150 บาท)
