บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Kasikornbank (KBANK TB) ต้นทุนสำรองสูง ชดเชยด้วย NIM เพิ่มขึ้น

อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้นจะชดเชยต้นทุนสำรองที่สูง

เราคาดว่าธุรกิจประกันและ NIM ของ KBANK จะค่อยๆ ดีขึ้น ตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ และชดเชยต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้นจากปัญหาสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/65 โดย KBANK มีแนวโน้มที่จะขยายสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อเพิ่มรายได้ และเร่งแก้ปัญหา NPL เพื่อเคลียร์งบดุล แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 185 บาท (P/BV ปี 65 ที่ 0.86 เท่า ROE 9.3%) ความเสี่ยงหลัก ได้แก่คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอกว่าที่คาด

กำไร 3Q65 เพิ่มขึ้น 23% YoY จากต้นทุนสำรองที่ลดลง

กำไร 3Q65 เพิ่มขึ้น 23% YoY แตะระดับ 1.06 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง ยอดปล่อยสินเชื่อลดลง 1% QoQ จากการขายและตัดจำหน่าย NPL ขณะที่ NIM เพิ่มขึ้น 12bps QoQ เป็น 3.35% เนื่องจากผลตอบแทนเงินกู้ที่สูงขึ้น ดังนั้น NII เพิ่มขึ้น 8% YoY ใน 3Q65 ขณะที่ Non-NII ลดลง 6% YoY เนื่องจากขาดทุนสุทธิในธุรกิจประกันชีวิต อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 43.7% ในไตรมาส 3/65 จาก 42.5% ในไตรมาส 3/64 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและไอทีที่เพิ่มขึ้น จากการขายและตัดจำหน่าย NPL อัตราส่วน NPL ลดลง 86bps QoQ มาอยู่ที่ 3.56% ขณะที่ NPL coverage ลดลง 10ppts QoQ มาอยู่ที่ 138% ในไตรมาส 3/65 KBANK บันทึกผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) 9.9 พันล้านบาท (ต้นทุนเครดิต 161ps) ในไตรมาส 3/65

ต้นทุนสำรองจะเพิ่มขึ้นใน 4Q65 สอดคล้องกับคาดการณ์ของเรา

ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา CFO คาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/65 และปี 65 อาจสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารที่ 140-160bps เราคาดการณ์ต้นทุนสินเชื่อของปี 65 ที่ 165bps เทียบกับ 159bps ใน 9M65 ซึ่งเท่ากับ 187bps ในไตรมาส 4/65 ผู้บริหารเผยว่าต้นทุนสินเชื่อของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงสูงกว่าที่คาดไว้จาก NPL ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารได้เร่งแก้ปัญหา NPL โดยการตัดจำหน่าย NPL จำนวน 2.97 หมื่นล้านบาท และโอน NPL มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท (รวม NPL นอกงบดุล) ให้กับ JK AMC เพื่อล้างงบดุลในไตรมาส 3/64 ทั้งนี้ KBANK ได้โอน NPLs จำนวน 5.5 หมื่นล้านบาทให้กับ JK AMC ใน 9M65 ไปแล้ว

คาด NIM จะดีขึ้น และธุรกิจประกันจะถึงจุดต่ำสุดใน 4Q65

แม้ว่าต้นทุนทางการเงินของ KBANK จะเพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียม FIDF ที่สูงขึ้น (เริ่มตั้งแต่ ม.ค. 66 เราคาดว่า NIM จะปรับตัวดีขึ้น QoQ ในไตรมาส 4/65 เนื่องจากธนาคารจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และการเติบโตของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง โดย CFO ระบุว่าธุรกิจประกันจะแตะจุดต่ำสุด เนื่องการจ่ายผลประโยชน์และค่าใช้จ่ายสำรองสูงในไตรมาส 4/65 และฟื้นตัวในปี 66 เรายังคงคาดการณ์กำไรปี 65/66 เติบโตที่ 11%/7%

- Advertisement -