บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +28.1%

Close Oct 21, 2022 Price (THB) 146.00

12M Target (THB) 187.00

Previous Target (THB) 190.00 

What’s new?

  • KBANK รายงานกําไรสุทธิ 3Q65 จำนวน 10,574 ลบ.โต 22.5%YoY แต่ลดลง 2%YoY แย่กว่าคาด หลังตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยง บวกกับเร่ง write off และขายหนี้เสียให้กับ JK AMC เพื่อปรับคุณภาพสินทรัพย์ แต่รายได้ดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นได้ จาก NIM ที่เริ่มขยายตัว หลังดอกเบี้ยในตลาดขยับขึ้น และบริษัทมี สัดส่วนของสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงมากขึ้น

Our view

  • แม้เรามองผลดำเนินงานของ KBANK ในช่วงสั้น ยังถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายตั้งสํารองที่ลดลงได้ยาก จากการปรับคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมให้แข็งแรงขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต ซึ่งจะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ปี 2566 หลังแรงกดดันในการตั้งสํารองเริ่มลดต่ำลง ขณะที่ในแง่ Valuation ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 28.1% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 187 บาท จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

KASIKORN BANK การตั้งสำรองยังสูง หลังบริษัทเร่ง write off และขายหนี้เสีย

3Q65 กำไรลดลง 2%QoQ หลังตั้งสำรองเพิ่ม และรายได้ค่าธรรมเนียมชะลอตัว

KBANK รายงานทําไรสุทธิ 3Q65 จํานวน 10,574 ลบ. โต 22.5%YoY แต่ลดลง 2%QoQ แย่กว่าคาด 7% หลังค่าใช้จ่ายตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 1%QoQ ผิดจากที่คาดจะปรับลง หลังบริษัทดำเนินนโยบาย Proactive Balance Sheet Cleaning โดยเร่ง Write-off หนี้เสีย และมีการขายหนี้เสียให้กับ JKAMC เพิ่มขึ้นอีกกว่า 2.5 หมื่นลบ. ทำให้ NPL Ratio ลดลงเหลือ 3.6% จาก 4.4% ใน 2Q65 และมี Coverage Ratio เพิ่มขึ้นเป็น 137.1% นอกจากนี้รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปรับลง 6%QoQ แย่กว่าคาด หลังมีผลขาดทุนในธุรกิจประกันชีวิตจำนวน 1,018 ลบ. จากที่มีกำไร 159 ลบ. ใน 2Q65 เพราะมีค่าใช้จ่ายในการรับประกันที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจ Brokerage ที่ชะลอตัว หักล้างปัจจัยบวกจากรายได้ดอกเบี้ยที่โต 3.4%QoQ หนุนด้วย NIM ที่ปรับขึ้นเป็น 3.4% จากเพียง 3.2% ใน 2Q65 หลังบริษัทมีการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อกลุ่มรายย่อยและ SME รายเล็กที่ปล่อยผ่านช่องทาง Digital Platform และช่องทางพันธมิตรมากขึ้น บวกกับผลของรายได้เงินลงทุนในตลาดเงินที่ปรับขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ย

ปรับประมาณการสะท้อนงบ 3Q65 ที่แย่กว่าคาด

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิของปี 2565 ลง 3.3% เพื่อให้สอดคล้องกับผลดำเนินงานใน 3Q65 ที่น้อยกว่าคาด  ขณะที่ 4Q65 คาดกำไรสุทธิของ KBANK จะปรับขึ้น YoY และโตเล็กน้อย QoQ โดยประเมินว่าระดับการตั้งสำรองยังทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากคาดบริษัทตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต และรองรับการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนการตั้งสำรองคาดฟื้นตัว QoQ หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่มีแนวโน้มโตดีตามพอร์ตสินเชื่อที่จะขยายตัวตามเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น  รวมถึงได้ผลบวกจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย หนุนให้ NIM มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดฟื้นตัวขึ้น หนุนจากผลขาดทุนของธุรกิจประกันชีวิตที่คาดปรับลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ปรับขึ้นตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อ ทำให้เราคาดทั้งปี 2565 KBANK จะมีกำไรสุทธิ 43,453 ลบ. โต 14.2%YoY

ช่วงสั้นมีแรงกดดันจากการปรับคุณภาพสินทรัพย์ แต่ Valuation ยังน่าสนใจ

แม้เรามองผลดำเนินงานของ KBANK ในช่วงสั้นยังถูกกดดันด้วยค่าใช้จ่ายตั้งสำรองที่ลดลงได้ยาก จากการปรับคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมให้แข็งแรงขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต ซึ่งจะเริ่มเห็นผลดีตั้งแต่ปี 2566 หลังแรงกดดันในการตั้งสำรองที่ลดต่ำลง ขณะที่ในแง่ Valuation ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 28.1% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2566 ที่ 187 บาท จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -