บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +11.1%

Close Oct 21, 2022 Price (THB) 3.06

12M Target (THB) 3.40

Previous Target (THB) 3.50

What’s new?

  • คาด 3Q65 จะขาดทุนสุทธิ 2.2 พันล้านบาท อ่อนแอลง Ooo และ YoY กดดันจากการปรับตัวลงของ Spread ปิโตรเคมี (PP ABS), การกลับสู่ระดับปกติของค่าการกลั่น, ต้นทุนน้ำมันสูงขึ้น, ขาดทุนสต็อกน้ำมัน FX จํานวนมาก
  • ปรับกำไรปี 2565 – 2566 ลง 32-35 สะท้อนผลขาดทุน Hedging ในปีนี้ และการฟื้นตัวในปีหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไปตามมาตรการควบคุมของจีนยืดเยื้อ – ภาวะเศรษฐกิจโลกอ่อนแอกว่าคาด

Our view

  • แนวโน้ม 4Q65 ดีขึ้นเล็กน้อย QoQ แต่ยังอยู่ในระดับอ่อนแอ คาด Market GIM เผชิญความท้าทายในการ Breakeven ต้นทุนที่จะสูงขึ้นจากการปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นกว่า 1 เดือน
  • ปรับราคาเหมาะสมเป็น 3.40 บาท ระยะสั้นยังไม่มี Catalyst บวก เพราะ 1) งบ 3Q-4Q65 อ่อนแอ 2) ความเสี่ยงถูกตลาดปรับลดประมาณการ 3) Outlook PP: ABS (ผลิตภัณฑ์หลัก) ฟื้นตัวช้ากว่าคู่แข่ง เพราะอุปทานใหม่จำนวนมากรอเข้าสู่ตลาด

IRPC ช่วงพักฐาน

คาด 3Q65 พลิกขาดทุน อ่อนแอลงตามภาวะตลาด Commodity

สำหรับ 3Q65 แม้ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นจะได้รับแรงหนุนการปรับตัวลงของราคาวัตถุดิบ (น้ำมันเตา) ทำให้ส่วนต่างราคา 500SN และยางมะตอยสูงขึ้น รวมทั้งจะมีกำไร Hedging เข้ามาช่วยจากการปรับตัวลงของ Crack Spread น้ำมันดีเซล อย่างไรก็ตาม เราคาดภาพรวมผลประกอบการจะอ่อนแอลง QoQ และ YoY พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 2.2 พันล้านบาท เพราะ 1) อัตราการผลิตเหลือ 190 kbd -4% QoQ, -1% YoY) ตามความต้องการใช้ 2) Market GIM คาดทําได้ US$7.8/bbl (-61% QoQ, -37% YoY) จาก Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปลดลง QoQ ทุกชนิด หลังทำระดับสูงสุดในไตรมาสก่อน ส่วนทางต้นทุนน้ำมัน Crude Premium ที่สูงขึ้น ขณะที่ Spread ปิโตรเคมี (HDPE PP ABS) ปรับตัวลงต่อเนื่อง เพราะอุปสงค์ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก, มาตรการ Zero-Covid ของจีน และอุปทานในภูมิภาคเพิ่มขึ้น 3) การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทำให้คาดว่าจะบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมัน 3.8 พันล้านบาท 4) การอ่อนค่าของเงินบาทจะเกิดขาดทุน FX 550 ล้านบาท

4Q65 เป็นรอบปิดซ่อมบำรุงใหญ่

แนวโน้ม 4Q65 คาดผลประกอบการฟื้นตัวเล็กน้อย QoQ จากขาดทุนสต็อกน้ำมัน -FX ไม่สูงเท่า 3Q65 รวมทั้งคาดว่า Market GIM จะขยับขึ้นจาก Crude Premium ลดลง (อ้างอิง Arab Light OSP 4QTD อยู่ที่ US$5.9/bbl เทียบกับ US$8.5/bbl ใน 3Q65) และ Crack Spread น้ำมัน Middle distillate จะสูงขึ้นช่วง ฤดูหนาว อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการยังอ่อนแอ โดย Market GIM อาจไม่เพียงพอ Break-even ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เพราะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นกว่า 1 เดือน เบื้องต้นคาดอัตราการผลิตเหลือ 125-130 kbd และต้นทุนผลิตสูงขึ้นเป็น US$13-14/bbl (จากระดับ US$10/bbl ในช่วงที่ผ่านมา)

การฟื้นตัวเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป…ปรับกำไรปี 2565 – 2566 ลง 32-35%

สำหรับปี 2566 คาดทิศทางกำไรทยอยดีขึ้น YoY เพราะไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ ขณะที่ส่วนต่างปิโตรเคมีจะฟื้นตัวจากฐานต่ำตามอุปสงค์ในภูมิภาค หลังจีนคลายมาตรการควบคุม, การปรับลดอัตราผลิตของผู้ผลิตต้นทุนสูง และปัญหาการ Ramp-up ของโรงงานแห่งใหม่ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และอาจใช้เวลานานกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ผลกระทบจากรัสเซีย – ยูเครนยืดเยื้อ และมาตรการ Zero-Covid ของจีนแย่กว่าคาด จากเหตุผลข้างต้น เราปรับลดคาดการณ์ทําไรสุทธิปี 2565 – 2566 ลง 32-35% เป็น 2.5 พันล้านบาท (-83% YoY) และ 3.6 พันล้านบาท (+44% YoY) ตามลำดับ สาเหตุมาจากการปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรธุรกิจปิโตรเคมี และรวมผลขาดทุน Hedging เข้ามาไว้ในประมาณการ

ระยะสั้นยังไม่มี Catalyst บวก

ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ใหม่ ที่ 3.40 บาท อ้างอิง PBV ที่ 0.80 เท่า (คงเดิม) Discount จาก ค่าเฉลี่ย 5 ปี -1.0 SD คงคำแนะนำ TRADING ระยะสั้นหุ้นยังไม่มี Catalyst บวก เพราะ 1) ผลประกอบการ 3Q-4Q65 ยังอ่อนแอ 2) ประมาณการของตลาดมี Downside 3) Outlook ปิโตรเคมีกลุ่ม PP และ ABS (ผลิตภัณฑ์หลัก) ฟื้นตัวช้ากว่าคู่แข่งเพราะมีอุปทานใหม่รอเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก (คาดรายงานผลประกอบการวันที่ 9 พ.ย.)

- Advertisement -