บล.พาย: 

PTG: บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี “ปัจจัยฤดูกาลและขาดทุนสต็อก CPO คือ ตัวจุดกําไรไตรมาส 3/22”

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 จะลดลง 49% QoQ เป็น 306 ล้านบาท ฉุดจากปริมาณขายและค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลง ขณะที่ราคาหุ้นที่ลดลง ล่าสุด (9% ใน 5 วันทำการที่ผ่านมา) ดูเหมือนสะท้อนแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอในไตรมาส 3/22 และผลกระทบจากอุทกภัยไปแล้ว ทำให้ภาพที่สดใสในไตรมาส 4/22 หนุนจากการฟื้นตัวของปริมาณขายจากปัจจัยตามฤดูกาล และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้น จะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาหุ้นระยะกลางได้ เลือก PTG เป็นหุ้นเด่น ในกลุ่มพลังงาน

คาดกำไรไตรมาส 3/22 ปรับดีขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

  • ประเมินว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/22 จะอยู่ที่ 306 ล้านบาท (+386% YoY, -49% QoQ) การเติบโตที่ยอดเยี่ยม YoY เป็นผลจากยอดขายที่โตดีขึ้น หลังคลายล็อกดาวน์ ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นเพราะ 1) ค่าการตลาดที่ ลดลงจากยอดสูงในไตรมาส 2/22 2) ปริมาณขายที่ลดลง และ 3) ขาดทุนสต็อกจากธุรกิจไบโอดีเซล หลังจากราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ปรับลดลงอย่างมาก
  • คาดปริมาณขายน้ำมันคาดโต 19% YoY เป็น 1,312 ล้านลิตร หลังจากกลับมาเปิดเศรษฐกิจ แต่ลดลง 4% QoQ จากอุปสงค์ที่อ่อนแอตามปัจจัยฤดูกาล (หน้าฝน) ประเมินว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะลดลง 9% QoQ มาอยู่ที่ 2.0 บาท/ลิตร หลังจากรัฐบาลลอยตัวราคาดีเซลในไตรมาส 2/22
  • ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน (non-oil) คาดว่าจะพุ่งขึ้น 60% YoY และ 10% QoQ หนุนจากการเติบโตของยอดขาย LPG และกาแฟพันธุ์ไทย

ภาพรวมไตรมาส 4/22 สดใสจากการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมัน

  • การผ่อนคลายมาตรการกำหนดเพดานราคาดีเซลโดยรัฐบาล (บังคับใช้ในไตรมาส 4/21) น่าจะทำให้กำไรไตรมาส 4/22 ฟื้นตัวจากขาดทุน YoY ส่วนการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศคาดว่าจะช่วยหนุนการเติบโต QoQ ได้
  • คาดขาดทุนจากธุรกิจไบโอดีเซลจะค่อยๆ หายไปในไตรมาส 4/22 เพราะรัฐบาลทำการปรับสัดส่วน B5 B7 (ในเดือน ต.ค.) จึงคาดว่าจะทำให้ราคา CPO ฟื้นตัวขึ้น
  • ประเมินผลกระทบจากอุทกภัยในภาคกลางและอีสานช่วงเดือน ต.ค. ในระดับไม่มากนัก เพราะมีเพียง 3 สาขาที่ได้รับผลกระทบ คิดเป็นสัดส่วนปริมาณขายที่น้อยกว่า 1% ของทั้งหมด

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 17.50 บาท

ราคาเป้าหมาย 17.50 บาท ถึง 20xPE’22E คิดเป็นค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าจำเป็นในตลาดโลก ชอบ PTG เพราะคาดว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) จะโตแข็งแกร่ง 52% ในปี 2022 และ 28% ในปี 2023 หนุนจากค่าการตลาดที่กลับสู่ระดับปกติ และปริมาณขายที่สูงขึ้นจากการขยายสถานีบริการ

Revenue breakdown

  • บริษัทประกอบธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งแบ่งสถานีบริการน้ำมันได้เป็นสองประเภทคือ 1) บริษัทลงทุนเอง (COCO) และ 2) สถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่าย (DODO)
  • ธุรกิจน้ำมันคิดเป็น 88% ของกำไรขั้นต้นของบริษัท มีการค้าส่งและค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการทั้งแบบ COCO และ DODO
  • บริษัทยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของเองทั้งหมด โดยส่วนนี้คิดเป็น 4% ของกำไรขั้นต้น
  • ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและธุรกิจอื่นๆ คิดเป็น 8% ของกำไรขั้นต้น ธุรกิจกลุ่มนี้รวมถึงร้านสะดวกซื้อ Max Mart ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น พื้นที่ให้เช่า รวมถึงรายได้จากรายการพิเศษเช่นเงินอุดหนุนสำหรับการลดลงของราคาน้ำมัน
- Advertisement -