Our View? “ยังพอไปได้อยู่บ้าง”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway/ Sideways Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,595 / 1,587 และแนวต้านที่บริเวณ 1,610 / 1,618 คาดตลาดยังคงได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ ตามการผ่อนคลายแนวโน้มการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง โดยดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 13.1% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า ขณะที่ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเดือน ต.ค. โดย Conference Board (CB) ออกมาที่ระดับ 102.5 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าเช่นกัน สะท้อนความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ FED อาจชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุด CME FEDWatch Tools บ่งชี้ตลาดเริ่มลดน้ำหนักคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนที่ระดับ 0.75% ในเดือน ธ.ค. จากเดือนเคยให้น้ำหนักที่ระดับ 75.0% ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 50.0%+/- สอดคล้องกับการที่นางแมรี ดาลี ประธาน FED สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาแสดงความคิดเห็นก่อนหน้าถึงโอกาสในการที่ FED จะเริ่มหารือเกี่ยวกับการชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ภาวะชะลอตัว จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รุนแรงเกินไป เรามองเป็นปัจจัยเชิงบวกช่วยกดดันทิศทาง Dollar Index อ่อนตัวลง โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.0+/- หลังจากไม่สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 14.0 รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) เริ่มวกตัวลง คาดบ่งชี้ตลาดเริ่มเปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น (Risk-on) และยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนทิศทางตลาดในภูมิภาครวมถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เราคาดตลาดยังคงให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการในช่วง 3Q’65 โดย Bloomberg Consensus คาดจะอยู่ที่ระดับ 105.0+/- บาท/หุ้น เร่งตัวขึ้นจากช่วงเดือนก่อนที่ระดับ 104.0+/- สะท้อนตลาดเริ่มปรับประมาณการผลประกอบการ 3Q65 อาจออกมาดีกว่าคาดการณ์เดิม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้บ้าง ทั้งนี้เรายังมีมุมมองมองเชิงบวกบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง (HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ TASCO) และหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการออกจบเยียวยาน้ำท่วมหลังสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการรัฐอาทิช็อปดีมีคืนในช่วงปลายปี คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ
อย่างไรก็ตามเราคาดตลาดอาจเผชิญ Upside ที่จํากัดในระยะสั้นได้บ้าง จากการติดตาม 1.) การรายงานตัวเลข GDP 3Q′65 ของสหรัฐ 2.) การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% เพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในวันที่ 27 ต.ค. นี้ และ 3.) การประชุม FOMC ของ FED ในวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ คาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 แต่ให้ติดตามท่าทีของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED และ Dot-plot ของ FED ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป คาดจะส่งผลให้ตลาดผันผวนจํากัด Upside ของตลาดได้บ้างในระยะสั้น
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “SCGP”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 53.25 / 52.75 Target 55.75 / 58.50 Stop <52.00
