บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

BCPG Pcl. (BCPG.BK/BCPG TB)*

ประมาณการ 3Q65: แค่ดีขึ้นตามฤดูกาลเท่านั้น

Event

ประมาณการ 3Q65, ปรับลดประมาณการกำไร และราคาเป้าหมาย

Impact

ประมาณการ 3Q65 – เป็นจุด peak ตามฤดูกาลอย่างที่นักลงทุนทราบดีอยู่แล้ว

เราคาดกำไรสุทธิ 3Q65F จะอยู่ที่ 645 ลบ. (+95% QoQ, +6% YoY) แต่หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 155 ลบ. และอื่นๆ กำไรหลักจะอยู่ที่ 565 ลบ. (+3% QoQ, -20% YoY) โดยกำไรที่เพิ่ม QoQ เป็นเพราะช่วง peak ตามฤดูกาลโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Nam San 3A & 3B) และส่วนหนึ่งเป็นเพราะ high season โรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทย แม้ว่าจะเป็นช่วง low season ของโรงไฟฟ้า solar ในไทยและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น 9% QoQ ตามวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ส่วนกำไรที่ลดลงอย่างมาก YoY จะเป็นเพราะไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการพลังความร้อนใต้พิภพ และมีโครงการที่ adder หมดอายุตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 อย่างเช่น BCPG2 (30MW)

ปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนการขึ้นดอกเบี้ย

เนื่องจากดอกเบี้ยกำลังขึ้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2567F ลง 6% เพื่อสะท้อนถึง i) ต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในส่วนที่เกี่ยวกับหนี้ที่คิดดอกเบี้ยลอยตัว ซึ่งส่วนใหญ่ผูกอยู่กับ US dollar LIBOR-linked portion และ ii) การปรับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยน USS THB โดยเรามองว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2566-2567F จะลดลงเพราะไม่มีกำไรจากโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพแล้ว ในขณะที่มีบางโครงการที่ adder หมดอายุลง และต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้า Solar ในไต้หวันน่าจะทยอยทำรายได้ให้บริษัทตั้งแต่ปี 2566F ก่อนที่จะส่งผลเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้นในปี 2568F เราคาดว่ากำไรหลักใน 4Q65F จะลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง low season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และได้รับผลกระทบเต็มไตรมาสจากการที่ adder ของโครงการ BCPG2 หมดอายุลง

คาดว่าจะเห็นดีลใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน (RE), แบตเตอรี่ และ carbon credit

ถึงแม้ BCPG จะคาดมีดีลใหม่ๆ ใน 4Q65 แต่เรามองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อย เพราะเหลือเวลาจำกัดในปีนี้ ขณะที่คิดว่าดีลอาจจะเลื่อนไปเป็นปีหน้ามากกว่าด้วย capex ใหม่ บริษัทกำลังศึกษาร่วมกับพันธมิตรในโครงการพลังงานหมุนเวียน, แบตเตอรี่ lithium-ion และการขาย carbon credit ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2566 ซึ่งจากการศึกษาของเราผ่าน TGO พบว่า BCPG ในปัจจุบันมี certified carbon credit อยู่ 728,953 tCO2eq จากโรงไฟฟ้า Solar 8 โครงการ ซึ่งจะทำให้มีรายได้ windfall 16-364 ล้านบาท อิงจากราคาสูงสุดและต่ำสุดที่เคยมีการขาย carbon credit ในประเทศไทยที่ 22-500 บาท/tCO2eq นอกจากนี้ บริษัทยังอาจจะมีรายได้เพิ่มอีก 61-63 ล้านบาท อิงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 37-38 USS/THB และราคาซื้อขายสำหรับ RE จากตลาดซื้อขาย carbon ตามความสมัครใจในระดับโลกที่ US$2.6/tCO2eq

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำถือ BCPG โดยปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566 ลงเหลือ 10.40 บาท จากเดิมที่ 11.60 บาท ถึงแม้ว่าราคาหุ้นจะปรับลดลงมามากแล้ว YTD แต่เรายังไม่เห็นปัจจัยกระตุ้นที่จะทำให้เราปรับเพิ่มคำแนะนำในตอนนี้ ในขณะเดียวกัน ยังไม่มีแววว่าจะมีการ re-rate หุ้น BCPG ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทกำลังมองหาการเติบโตใหม่ๆ และเริ่มได้รับผลกระทบจากแนวโน้มกำไรขาลงเช่นกัน เราคิดว่าโครงการใหม่ๆ ที่มีนัยสำคัญ ซึ่งให้ผลตอบแทนน่าสนใจอาจจะทำให้เราปรับเพิ่มคำแนะนำได้ในอนาคต ในขณะที่มองว่าบริษัทมีเงินสดในมือเทียบเท่ากับ 5.6 บาท/หุ้น ดังนั้น ราคาหุ้นไม่น่าจะลงไปถึงจุดนั้น

Risks

การปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -