ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
แกว่งขึ้นต่อ… ปัจจัยหนุนฟันด์โฟลว์ยังดีอยู่
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ แกว่งตัวขึ้นต่อ….. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวต่อได้ (ตามคาด) แม้ว่าจะผันผวนอยู่บ้างระหว่างวันตามแรงขายต่อเนื่องในหุ้น DELTA (7.62%) ทั้งนี้ ฟันด์โฟลว์ยังคงหมุนเข้าสู่หุ้นไทย ด้วยธีมเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง และค่าเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยีลด์ลดลงในช่วงที่ผ่านมา… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมยังคงเป็นบวก กล่าวคือ i) สหรัฐฯ หลุดออกจากภาวะ technical recession หลังจากรายงาน GDP ไตรมาส 3/2565 โต 2.6% QoQ annualized ซึ่งสูงกว่าที่ consensus คาดการณ์ไว้ที่ 2.4% QoQ ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี บอนด์ยีลด์ยังคงลดลงต่อ เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ตัวเลขเศรษฐกิจดี แต่บอนด์ยิลด์ไม่พุ่งแรง) ทั้งนี้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ให้น้ำหนักเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ แต่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. ทั้งนี้สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE เดือน ก.ย. ค่ำวันนี้ อาจสูงกว่าที่ตลาดคาดมาก อาจทำให้ตลาดกลับมากังวลประเด็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงอีกครั้งหนึ่ง ii) ที่ประชุม ธ.กลางยุโรป (ECB) ปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ 2.00% ตามที่ฝ่ายวิจัยฯ และ consensus คาดการณ์ และส่งสัญญาณทยอย ปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังค้างอยู่ในระดับสูงมาก….. สำหรับในสัปดาห์หน้า นอกจากผลประชุมเฟดแล้ว นักลงทุนควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย. ซึ่งจะรายงานในวันที่ 31 ต.ค.
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร AMA, BCP*, SCGP*
- AMA (เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.0 บาท / แนวต้าน 6.4 – 6.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.0 บาท (Trailing stop 5.7 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 129 ล้านบาท (+163% YoY, +83% QoQ) และคาดกำไรปีนี้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ +300 ล้านบาท (โต +100% YoY) โดยเป็นผลจากธุรกิจขนส่งน้ำมันปาล์มทางเรือที่ฟื้นตัวขึ้นมาก ทั้งจากด้านอุปสงค์ในภูมิภาค และอุปทานเรือขนส่งน้ำมันปาล์มในภูมิภาคที่ลดลง เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนไปขนส่งน้ำมันดอกทานตะวันไปยุโรปแทน 3) ขณะที่คาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ Valuation ไม่แพง Forward PE 10 เท่า (ใกล้เคียง -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 9.5 เท่า) / PBV 1.25 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต) / คาดปันผลปีนี้ 0.35 บาท/หุ้น Dividend Yield 5.7%
- BCP* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 31 – 31.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 33 บาท (Stop loss 29 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมิน BCP จะเป็นหุ้นโรงกลั่นเพียงตัวเดียวที่มีผลการดำเนินงาน 3Q65 เป็นกำไรสุทธิได้ราว +2.6 พันล้านบาท (-51% QoQ, +43% YoY) ขณะที่หุ้นโรงกลั่นอื่นๆ คาดว่าจะมีผลขาดทุนในไตรมาสนี้ และคาดแนวโน้มค่าการกลั่นจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q65 ที่เป็น High season 3) Dividend yield สูง โดยคาดปันผลที่เหลือของผลการดำเนินงานปีนี้ที่ 2.4 บาท คิดเป็น Dividend yield 8%
- SCGP* (เป้าพื้นฐาน 63 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 52 บาท / แนวต้าน 53.75 – 55 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 57 บาท (Stop loss 51.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และคาดจะเริ่มฟื้นตัวใน 4Q65 จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ต้นทุนการขนส่งที่ลดลง และปัจจัยฤดูกาลที่เป็น High season 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปี 2566 กลับมาโต +20% YoY ขณะที่ Forward PE +/-26 เท่า คิดเป็นราว -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต
หุ้นมีข่าว
(+) ภาคอสังหาฯ เชื่อ ปี 66 ตลาดฟื้นตัว มูลค่า 4.5 แสนล. (กรุงเทพธุรกิจ) มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 คึกคัก รับสัญญาณบวก นายกสมาคมคอนโดฯ ระบุผลจาก LTR-ปลดล็อกต่างชาติ ซื้อบ้าน ที่ดิน หนุนตลาดอสังหาฯ ปีหน้าฟื้น คาดมูลค่า 4.5 แสนล้าน เล็งขอรัฐช่วยกระตุ้น ขยายเพดานราคาขายบ้าน BOI 1.4 ล้าน หวังรองรับกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ ลดค่าธรรมเนียมโอน พร้อมขยายเพดานไปที่ 5 ล้านบาท ลดภาษีที่ดิน แนะลูกค้ารีบตัดสินใจซื้อก่อนปีหน้าปรับราคาขึ้น 10%
(-) คลังเร่งหาเงินเพิ่มทุน “บินไทย” เล็งขายหุ้นในพอร์ต หวังรักษาสัดส่วนหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่ง (กรุงเทพธุรกิจ) คาดใส่เงินไม่ต่ำกว่า “1 หมื่นล้าน” “คลัง” เล็งขายหุ้นในพอร์ต นำเงินไปเพิ่มทุนการบินไทย เพื่อรักษาความเป็นหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง คาดต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยถือหุ้นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 40% ประเมินทิศทางผลดำเนินงานดีต่อเนื่อง ด้านการบินไทยต้องเร่งเพิ่มทุนจดทะเบียน 3.1 หมื่นล้านหุ้น ตั้งเป้ากลับไปซื้อขายในตลาดภายในปี 2568 ให้สิทธิเจ้าหนี้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนก่อน
(+) บลจ.กสิกรฯ จ่อถูกขายก่อนสิ้นปี หลังต่างชาติแห่สนใจประมูล (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) รายงานข่าวจากสำนักข่าว Bloomberg เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย (KBank) กำลังจะมีการเปิดประมูลในการซื้อหรือลงทุนในกิจการของ บลจ.กสิกรไทย ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากมีสถาบันการเงินจากต่างประเทศหลายรายสนใจในกิจการธุรกิจบริหารกองทุน
(+) AutoX เขย่าจำนำทะเบียน ประกาศขึ้นท็อป 3 ใน 3 ปี ท้าชน SAWAD-MTC-TIDLOR ทุกสนาม (ข่าวหุ้น) “ออโต้ เอกซ์” ขอแชร์ส่วนแบ่งตลาดจำนำทะเบียนรถ ลั่นขึ้น 1 ใน 3 อันดับแรกของประเทศ ภายในปี 68 ตั้งเป้าปล่อยกู้กว่า 7 หมื่นล้านบาท ROE มากกว่า 25% เบียดคู่แข่ง SAWAD, MTC และ TIDLOR ที่มี ROE 10-20% เท่านั้น ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ปี 70 โบรกฯ มองช่วยกันอัพไซด์กำไรยานแม่ 8-9% ราคาเป้าหมาย SCB 144 บาท
(+) JWD เปลี่ยนชื่อ SJWD ควบ SCGL พุ่ง 2.8 หมื่นล. (ทันหุ้น) JWD ชี้หลังควบรวม “เอสซีจี โลจิ สติกส์” หนุนรายได้ปี 2566 ก้าวกระโดดเป็นราว 2.8 หมื่นล้านบาท รับฐานธุรกิจกว้างขึ้น พร้อมเล็งเปลี่ยนชื่อหุ้นเป็น “SJWD” คาดชัดเจน Q1/2566 แถมวางหมากดันมาร์เก็ตแคปสู่ 1 แสนล้านในปี 2570
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- NEX (เป้า Consensus 23.5 บาท) แนวรับ 19.5 บาท / แนวต้าน 20.0-20.2 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 19.0 บาท)
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 59.5 บาท / แนวต้าน 61-62 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 58.25 บาท)
- M (เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท) แนวรับ 58.5 บาท / แนวต้าน 60-62 บาท (Trailing stop 57 บาท)
- SCB* (เป้าพื้นฐาน 152 บาท) แนวรับ 105 บาท / แนวต้าน 108-113 บาท (Stop loss 103.5 บาท)
- BBL* (เป้าพื้นฐาน 165 บาท) แนวรับ 143 บาท / แนวต้าน 146-149 บาท (Trailing stop 140 บาท)
- ERW (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) แนวรับ 4.46 บาท / แนวต้าน 4.56-4.66 บาท (Trailing stop 4.38 บาท)
- TLI (เป้าพื้นฐาน 19.1 บาท) แนวรับ 15.4 บาท / แนวต้าน 16.1-16.5 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
- ILM (เป้า Consensus 22.4 บาท) แนวรับ 17.6 บาท / แนวต้าน 18.5-18.7 บาท (Stop loss 17.0 บาท)
- TU* (เป้า Consensus 22.3 บาท) แนวรับ 18.5 บาท / แนวต้าน 19.0 -19.4 บาท (Stop loss 18.1 บาท)
- PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) แนวรับ 7.05 บาท / แนวต้าน 7.35-7.55 บาท (Stop loss 6.9 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- GPSC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 74 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q65 = 330 ล้านบาท (-52% QoQ, -82% YoY) กำไรที่คาดจะลดลงเป็นผลจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และไม่มีกำไรพิเศษเช่นในไตรมาสก่อน แม้แนวโน้มผลการดำเนินงานหลัก 4Q65 จะยังอ่อนแอ แต่คาดกำไรสุทธิใน 4Q65 จะสูงสุดในปี 2565 โดยจะมีกำไรพิเศษจากค่าสินไหมประกันราว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 74 บาท (เดิม 79 บาท)
- EKH แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 9.2 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 3Q65 = 61 ล้านบาท (-60.7% YoY, +25.5% QoQ) ทั้งนี้คาดแนวโน้มยังดีต่อเนื่อง จึงปรับประมาณการฯ ขึ้น และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ถือ”) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.2 บาท (เดิม 8.6 บาท)
- กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ประเด็นสำคัญจากงบการเงินใน 3Q65 i) แม้อัตราการเติบโตของสินเชื่อจะยังไม่เติบโตมากนัก แต่ NIM เริ่มดีขึ้น ii) NPL เริ่มเห็นในลูกหนี้กลุ่ม SME และสินเชื่อเช่าซื้อ แต่สำหรับลูกหนี้กลุ่มองค์กรทรงตัว แม้ผู้บริหารจะให้แนวโน้มที่ยังระมัดระวัง แต่ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมิน downside ของประมาณการฯ ต่อ จึงยังคงน้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” หุ้นเด่นเลือก KTB* BBL*
หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus