สัปดาห์นี้ตลาดจะให้น้ำหนักกับการประชุม FED

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ยังคงปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่งราว 2.6% ตลาดคาดหวังถึงนโยบายการเงินผ่อนคลายจาก FED หลังจาก PCE (เงินเฟ้อ) ออกมาตามตลาดคาดการณ์ไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ลดลง 1.2% ถูกกดดันจากอุปสงค์ในจีนหลังจากประกาศ Lockdown ใหม่เพื่อควบคุมการระบาด COVID

Market Outlook

สัปดาห์นี้ตลาดจะให้น้ำหนักไปที่การประชุม FED ในวันที่ 3 พ.ย. (ตี 1 ตามเวลาประเทศไทย) ทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงวันพฤหัสบดีช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย เบื้องต้นข้อมูลจาก CME FED Watch ระบุว่าให้น้ำหนักที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ด้วยน้ำหนัก 81.3% ส่วนอีก 18.7% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.50% ดังนั้นหากที่ประชุมตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% ก็มองว่าไม่มีผลอะไรมากนักต่อการลงทุน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดคาดหมายไว้อยู่แล้ว แต่หากปรับขึ้นเพียง 0.50% จะสร้างแรงหนุนเชิงบวกต่อหุ้น พร้อมกันทั้งนี้แนะติดตามเกี่ยวกับถ้อยแถลงของที่ประชุม หากเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อเนื่องก็มองว่าจะยิ่งเป็นบวกกับตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งตลาดเริ่มคาดหวังว่าจะเห็นการประชุมเดือน ธ.ค. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% แต่หากยังส่งสัญญาณเชิงเข้มงวดก็มองถึงโอกาสปรับฐานของตลาด เนื่องจากปัจจุบันตลาดกำลังคาดหวังให้ FED ดำเนินนโยบายผ่อนคลาย

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ในสัปดาห์ (1) วันอังคารเน้นที่ดัชนีภาคการผลิต Bloomberg คาดที่ 50 และในวันเดียวจะมีการประกาศตำแหน่งเปิดรับสมัครงานในสหรัฐ Bloomberg คาดที่ 50 (2) วันศุกร์กับภาคแรงงานสหรัฐฯ Bloomberg คาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่ 2 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 3.6% ตัวเลขที่จะเป็นบวกคือต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ (3) ภายในประเทศจะเน้นที่เงินเฟ้อประจำเดือน ต.ค. Bloomberg คาดที่ 6%YoY 0.3%MoM หากต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ก็จะยิ่งเป็นบวกกับตลาดหุ้นและเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าหนุน Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง (4) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q22 โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวกรอบ 1595 – 1625

เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังมองบวกกับตลาดหุ้นด้วย (1) ก่อนเลือกตั้งตลาดมักให้ผลตอบแทนที่ดีทั้งสหรัฐฯ และไทย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศกำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น (2) สถิติในช่วง 4Q ตลาดหุ้นมักให้ผลตอบแทนเป็นบวกมากกว่าเป็นลบจึงยังเน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC) อสังหาฯ (AP LH SPALI)

Pi Stock Picks

BGRIM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท)

คาดผลประกอบการใน 2H22 จะได้ประโยชน์จากค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น คาดว่า กกพ. จะปรับเพิ่มค่า Ft ขึ้นอีก 0.6866 บาท/kWh เป็น 0.9343 บาท/kWh สำหรับช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2022 เพื่อชดเชยราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น

LH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.20 บาท)

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/22 อยู่ที่ 1.96 พันล้านบาท (+50% YoY, 8.6% QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงขับเคลื่อนจาก 1) การรับรู้รายได้จากยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นเป็น 7.8 พันล้านบาท (+19%YoY) หนุนจากโครงการเดอะ คีย์ พระราม 3 2) ส่วนแบ่งกำไรสูงขึ้นเป็น 716 ล้านบาท (+54%YoY) และ 3) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ 31.5% (+1.1 ppts YoY) ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นเพราะการรับรู้รายได้ยอดขายอสังหาฯ ที่ลดลงเป็น 7.8 พันล้านบาท (-7%QoQ) และ GPM ที่ลดลงเป็น 31.5% (-0.5ppt)

- Advertisement -