บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Ratch Group (RATCH.BK/RATCH TB)*

ประมาณการ 3Q65F: ไต่ขึ้นไปทีละนิด

Event

ประมาณการ 3Q65, ปรับเพิ่มปร lolะมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย

Impact

ประมาณการ 3Q65F – ปัจจัยบวกหักกลบไปกับปัจจัยลบ

RATCH จะส่งงบ 3Q65 ในวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยเราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 2.29 พันลบ. (+4 % QoQ, +59% YoY) และจะมีกำไรหลัก 2.23 พันลบ. (ทรงตัว QoQ, +40% YoY) จากผลการดำเนินงานมีทั้งด้านบวกและลบ โดยด้านบวกคือ i) ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของโรงไฟฟ้าหงสา ii) เป็นช่วง peak ตามฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ(PNPC, NN2, Asahan) iii) รับรู้ผลการดำเนินงานของ NRES (45MWe) เต็มไตรมาสและ iv) ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 0.4766/kWh (+0.30) ส่วนด้านลบคือ i) margin ของRCO ลดลงจากการที่ราคาก๊าซเฉลี่ยของ SPP แกว่งตัวขึ้นเป็น 550 บาท/mmbtu (+27% QoQ) และ ii) ผลการดำเนินงานของ RG (dispatch คงที่) และ RAC (ทรงตัวQoQ และลดลง YoY) ไม่น่าตื่นเต้น

ปรับประมาณการเล็กน้อยเพื่อสะท้อนถึงต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

เพื่อสะท้อนถึงความล่าช้าในการรับรู้ผลการดำเนินงานจากโครงการ Paiton (931MWe) จาก 3Q65 เป็น ปลาย 1Q66) รวมถึงการซื้อโครงการ NEJV ตั้งแต่ 1Q66 (ดูรายละเอียดได้จากบทวิเคราะห์ของเราฉบับ วันที่ 1 กันยายน 2565) และต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566F ลง 1-18% และปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567F ขึ้นอีก 8-10% ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการ ที่ NEJV เราใช้สมมติฐาน EIRR ที่ 10-12% โดยใช้ D/E project finance ที่ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยปีละ75:25 ซึ่งมีอัตร 3.5% โดยเราคาดว่าโครงการนี้จะทำกำไรให้บริษัท 400-500 ล้านบาทในปี 2566-2568F และเพิ่มเป็น 1.0-1.5 พันล้านบาทตั้งแต่ปี 2569F เป็นต้นไปดังนั้น เราจึงคาดว่ากำไรของ RATCH ในปี 2566F จะ เพิ่มขึ้น 43% YoY จากโครงการPaiton และ NEJV แต่คาดว่า EPS จะลดลง YoY เนื่องจากผลของ dilution ทั้งนี้ เมื่อสิ้นงวด 2Q65 RATCH มีหนี้เป็นสกุลบาทประมาณ 38% รองลงมาคือ USD ที่ และ AUD ที่25% ในขณะเดียวกัน หนี้ที่คิดดอกเบี้ยลอยตัวมีสัดส่วน 43% ของยอดหนี้ทั้งหมด ดังนั้น เมื่อดอกเบี้ยอยู่ในขาขึ้น จึงยากที่ RATCH จะสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ยลง และ/หรือ หลีกเลี่ยงจาก แนวโน้มต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นได้ 37%

ประมาณการ 4Q65F – กำไรจะลดลงอย่างชัดเจน

เราคาดว่ากำไรใน 4Q65F จะลดลง QoQ จาก low season โรงไฟฟ้าพลังน้ำ, โรงไฟฟ้าพลังงานลมใน ออสเตรเลีย, IPP ของ RATCH (RG และหงสา) จะมีการซ่อมบำรุง, และราคาก๊าซของโรงไฟฟ้า SPP จะ ถึงจุดสูงสุด แม้ว่าจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากEcowin, RATCH Cogen และอาจจะรวมถึง Paiton ด้วย

Valuation & Action

เราคงคำแนะนำถือ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย DCF เป็น 43 บาท จากเดิมที่ 41 บาทจากการรวมผลการ ดำเนินงานของ NEJV เข้ามาในประมาณการ เราคิดว่าราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนการซื้อ NEJVไปบ้างแล้ว แต่ยังคงมี dilution gap และการเติบโตยังมีแนวโน้มต่ำอยู่ ทั้งนี้ จากแนวโน้มการเติบโต และอัตราผลตอบแทนในระดับปานกลางเราจึงมองว่าราคาหุ้นดูเหมาะสมแล้ว

Risks

การปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย

- Advertisement -