สถิติหลังเลือกตั้งกลางเทอมหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น แต่ครั้งนี้ไม่แน่
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับตัวขึ้น 1.3% นักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มต้นในวันนี้ ด้านราคานํ้ามันดิบ BRT ปิดลบ 0.7% กังวลกับความไม่แน่นอนของจีนหลังจากมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการเปิดประเทศ
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อประจำเดือน ต.ค. +5.98%YoY ใกล้เคียงกับตลาดคาด 6%YoY ชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลักๆ เป็นผลจาก (1) ราคาน้ำมันและเชื้อเพลิงที่ขยายตัวชะลอตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันโลก (2) ราคาเนื้อสัตว์ที่ชะลอตัวลง อาทิ สุกร ไก่ ตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาผักสดสูงขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้กระทบกับการเพาะปลูก แต่ปัจจุบันพบว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ส่วนสถานการณ์เงินเฟ้อรายเดือนพบว่าขยายตัวเพียง 0.33% โดยมีสาเหตุหลักจากการสูงขึ้นของราคาข้าว ข้าวสารเหนียว กลุ่มผักสด ส่วนสินค้าที่ราคาลดง MoM ได้แก่ เนื้อสัตว์ อาทิ เป็ด ไก่ ปลาทู ความเห็นเราด้วยเงินเฟ้อที่ปรับลงและมีแนวโน้มปรับลงต่อเนื่อง (อิงคาดการณ์จากกระทรวงพาณิชย์) จะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยไม่จำเป็นต้องตึงตัวมาก (บวกกับตลาดหุ้น) และไทย เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เงินเฟ้อปี 2023 จะลงมาเหลือเฉลี่ยเพียง 2.5%YoY หากเทียบกับสหรัฐฯ Bloomberg ประมาณการปี 2023 ที่ 4.1%YoY เมื่อประกอบกับดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะเป็นบวกต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าทิศทางเงินบาทมีแนวโน้มจะค่อยๆ แข็งค่า และเป็นปัจจัยเอื้อต่อเม็ดเงินต่างชาติ ส่วนหุ้นได้ ประโยชน์จากการรายงานเงินเฟ้อ มองไปยังกลุ่มร้านอาหาร (CENTEL M MINT) ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่จะดีขึ้นจากการลดลงของต้นทุนสินค้า (ราคาเนื้อสัตว์) แต่จะเป็นลบกับผู้ค้าเนื้อสัตว์ อาทิ (CPF GFPT TFG) ส่วนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ผลโพลบ่งชี้ว่าคะแนนความนิยมสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมากตกไปอยู่ที่ Republican (พรรคตรงกันข้ามกับ Joe Biden) สิ่งที่เรามองคือหากเป็นไปตามผลสำรวจก็อาจเป็นไปได้ที่การผ่านนโยบายจะกระทำได้ยากมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายด้านต่างประเทศอย่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นบวกกับตลาดหุ้น ทั้งนี้สถิติตลาดหุ้น S&P500 พบว่าหลังผ่านการเลือกตั้งไป 1 ปี ตลาดหุ้นมักปรับขึ้นได้แต่กับครั้งนี้ยังวางใจมิได้จากผลกระทบเศรษฐกิจถดถอย
เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่จะเป็นเป้าหมายของ Fund Flow อาทิ ธนาคาร (BBL KBANK SCB TTB TISCO) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO ILM) ท่องเที่ยว (AOT MINT) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC) อสังหา (AP LH SPALI) ประเมิน SET ปรับขึ้นกรอบ 1624 – 1635
Pi Stock Picks
ILM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท)
คาดกำไรไตรมาส 4/22 แตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์เพราะรายได้ค่าเช่าที่พุ่งสูงขึ้น การขยายสาขาใหม่ และ SSSG ที่แข็งแร่งท่ามกลางหน้าฝนในเดือน ต.ค. 2022
PSL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท)
คาดค่าระวางเรือเทกองจะฟื้นตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 4/22-1/23 หนุนจากปัจจัยด้านอุปสงค์คือ 1) การนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ฟื้นตัวจากจีนหลังคลายล็อกดาวน์ และ 2) ฤดูเก็บเกี่ยวสำหรับสินค้าเกษตรในสหรัฐฯ ส่วนในระยะยาว บริษัทจะได้ประโยชน์จาก TCE rate ในระดับที่ทำกำไรได้ สืบเนื่องจากอุปทานด้านกองเรือที่ปรับดีขึ้น และส่วนต่างอุปสงค์การค้าตลาด seaborne ที่ตัวอุปสงค์จะโตเร็วกว่าอุปทานในปี 2023-24