บล.กรุงศรีฯ:
PTT OIL AND RETAIL BUSINESS (OR TB/ OR.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | พลังงานและสาธารณูปโภค |
หุ้น | OR |
มูลค่าพื้นฐาน | 22.00 |
คำแนะนำ | SELL |
- ผลประกอบการ 3Q22
กำไรสุทธิใน 3Q ที่ 701 ลบ. (EPS 0.06 บาท) -89% qoq และ -63% yoy
ปริมาณยอดขายน้ำมันลดลง 8.4% qoq (+20.4% yoy) เพราะกลุ่มขายปลีก (-7.6% qoq) และกลุ่มการค้า (-9.2% qoq) ในขณะที่ EBITDA margin ของธุรกิจน้ำมันลดลงเหลือ 0.6% จาก 4.2% ใน 2Q เพราะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน (5.0 พันล้านบาท จากที่มีกำไร 3.6 พันล้านบาทใน 2Q) GPM ลดลงเหลือ 0.68 บาท/ลิตร จาก 1.61 บาท/ลิตรใน 2Q ส่วนในกลุ่ม lifestyle ยอดขายยังทรงตัว qoq อยู่ที่ 5.3 พันล้านบาท ในขณะที่ร้านคาเฟ่อเมซอนขายเครื่องดื่มได้เพิ่มขึ้น 2 ล้านถ้วย qoq เป็น 93 ล้านถ้วย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น และค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นทำให้ EBITDA margin ของกลุ่ม lifestyle ลดลงเหลือ 22.9% จาก 27.4% ใน 2Q ทังนี้ OR เปิดสาขาร้านคาเฟ่อเมซอนใหม่เพิ่มอีก 58 ร้านใน 3Q ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มเป็น 3,786 ร้าน สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ ปริมาณยอดขายน้ำมันลดลง 2.3% qoq เพราะปริมาณยอดขายที่ลาวลดลง (-20.3% qoq) โดยยอดขายรวมของร้านคาเฟ่อเมซอนเพิ่มขึ้น 3.3% qoq (เป็น 6.3 ล้านถ้วย) ในขณะที่ EBITDA margin ลดลงเหลือ 2.0% จาก 3.5% ใน 2Q ดังนั้น OR จึงมีกำไรสุทธิใน 3Q อยู่ที่ 701 ล้านบาท (EPS 0.06 บาท) ลดลง 89% qoq และ 63% yoy
- แนวโน้ม
คาดว่าผลการดำเนินงานใน 4Q ของกลุ่มน้ำมัน และ lifestyle จะดีขึ้น
เราคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นจากตามฤดูกาล และ GPM/ลิตรก็น่าจะฟื้นตัวขึ้นตามราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้น เรามองว่ากลุ่ม lifestyle มีโมเมนตามแข็งแกร่ง ซึ่งนำโดยคาเฟ่อเมซอน ซึ่งมีการปรับขึ้นราคาขายกาแฟอีก 5 บาท/ถ้วยใน 4Q ทั้งนี้ เรายังระมัดระวังกับผลตอบแทนของงบลงทุน (capex) OR เพราะบริษัทใช้เงินลงทุนโครงการใหม่ไปแล้ว 5 พันล้านบาท (ดูหน้า 2) ตั้งแต่กลางปี 2020 แต่ยังไม่มีโครงการไหนที่ทำกำไรให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญเลย
- นัยยะ / คำแนะนำ
เรามองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันแพงแล้ว เพราะกลุ่มน้ำมันยังเป็นตัวขับเคลื่อนกำไรอยู่ ในขณะที่ GPM/ลิตรจะขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาน้ำมัน ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำขาย และประเมินราคาเป้าหมายที่ 22 บาท คิดเป็น PE ปี FY23F ที่ 23.7x