บล.บัวหลวง:
KCE Electronics (KCE TB/KCE.BK)
KCE – กำไรหลักต่ำกว่าคาด
กําไรหลักต่ำกว่าคาด
KCE รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 655 ล้านบาท เติบโต 9% YoY และ 15% QoQ หากไม่รวมกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน (41 ล้านบาท) และขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งรวมอยู่ในการด้อยค่าของสินทรัพย์ (22 ล้านบาท) กำไรหลักจะอยู่ที่ 636 ล้านบาท เติบโต 6% YoY และ 6% QoQ ซึ่งตากว่าที่เราคาด 8% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 11% โดยหลักมาจากยอดขายที่ต่ากว่าคาด
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
รายได้ในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท เติบโต 22% YoY แต่ทรงตัว QoQ (หรือ 128 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 6% QoQ) รายได้ถูกกดดันมาจากยอดฝากขายที่ไม่รับรู้ 328.3 ล้านบาท ปริมาณ ขาย PCB ลดลง 4% QoQ โดยหลักมาจากลูกค้าชะลอการสั่ง PCB แบบ Multi-layer เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ต่อ PCB ในเกรดพิเศษ (HDI) ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ปัญหาการขนส่งเนื่องจากการขาด แคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังคงมีปัญหาอยู่บ้าง ส่งผลให้ไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้และมีสินค้าคงคลังที่สูง เนื่องจากการขนส่งล่าช้า
อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 27.2% ในไตรมาส 3/64 มาอยู่ที่ 24.3% ในไตรมาส 3/65 (แต่ปรับตัวขึ้นจาก 22.8% ในไตรมาส 2/65) เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากราคาทองแดงที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลัก ราคาทองแดงเริ่มปรับตัวลงในเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตาม ก็จะยังมีต้นทุนที่สูงสําหรับต้นทุนการผลิตในไตรมาส 3/65 เนื่องจากการใช้สต๊อกเก่าที่มีราคาสูง ในด้านการผลิตอัตราค่าไฟสูงขึ้นในช่วงนี้
แนวโน้ม
กําไรหลัก 9 เดือนแรกของปี 2565 ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายจากการขยายกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม ราคาต้นทุนวัตถุดิบน่าจะผ่านจุดพีคไปแล้ว และน่าจะเริ่มปรับตัวลง นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะหนุนต่ออัตรากําไรขั้นต้น ดังนั้น เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/65 จะฟื้นตัว YoY และ QoQ ดังนั้นกำไรหลักในไตรมาส 4/65 ของ KCE จึงน่าจะฟื้นตัว YoY และ QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กําไรที่อ่อนแอกว่าที่เราคาดในไตรมาส 3/65 ส่งผลให้เราปรับลดประมาณการกําไรปี 2565 ลง 3% มาเหลือ 2.5 พันล้านบาท
คําแนะนํา
โดยปกติราคาหุ้น KCE จะตอบสนองต่อสารสําคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ซึ่งสําหรับรอบไตรมาส 3/65 จะจัดขึ้นในบ่ายวันนี้ เราคาดบริษัทจะบอกนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มคำสั่งซื้อ และการฟื้นตัวของอัตรากําไรขั้นต้น โดยสำหรับเรา เรายังคงแนะให้ระมัดระวังแนวโน้มของอุปสงค์ในปี 2566 เนื่องจากการเข้าสู่ช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยเรายังคงแนะนำให้รอการฟื้นตัวที่ชัดเจนก่อน