DailyView
ผลประชุม กนง. วานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยด้วยจำนวนเสียง 4 : 2 สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ ถ้อยแถลงด้านในที่ประชุมระบุว่า เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการระบาด COVID-19 มากกว่าที่ทาง กนง. ประเมินไว้ และยังมี Downside โจทย์สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจทาง กนง. ได้ระบุว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาดและการกระจาย Vaccine โดยที่ดอกเบี้ยปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับต่ำแล้ว พร้อมกันทั้งนี้ได้ปรับเศรษฐกิจไทยปี 21 เหลือเติบโตเพียง 0.7%YoY และปี 22 เติบโต 3.7%YoY จากคาดการณ์งวดก่อนที่ 1.8%YoY และ 3.9%YoY ตามลำดับ สาเหตุของการปรับลงมาจากการบริโภคเอกชนที่ลดลง และการท่องเที่ยวของต่างชาติที่ปรับลดลงมากในปี 22 พร้อมคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 21 เพียง 0.15 ล้านคน ส่วนปี 22 ขึ้นกับสถานการณ์ระบาดหากควบคุมได้และผ่อนคลายตั้งแต่ 4Q21 นักท่องเที่ยว ต่างชาติจะอยู่ที่ 6 ล้านคนในปี 22 แต่หากยืดเยื้อและผ่อนคลายปลาย 4Q21 คาดนักท่องเที่ยวปี 22 เพียง 2 ล้านคน
SET INDEX วันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงกรอบ 1537–1544 รับแรงกดดันจาก (1) การปรับฐานลงของ Dow Jones 0.9% (2) ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับฐาน 2.8% เพิ่มแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามด้วยเช้านี้ Nikkei เคลื่อนไหวบวก 0.55% อาจช่วยประครองไม่ให้อ่อนตัวแรงจนเกินไป นักกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นยังเลือก Defensive ที่ผลกระทบจาก COVID-19 จำกัด อาทิ สื่อสารและโรงไฟฟ้า (ADVANC BCPG BGRIMGPSC GULF) ซึ่งเป็น Theme ที่เราเน้นมาตลอด และเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวที่โดดเด่น รวมถึงกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA NER KCE TU) ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
StockPick
BCPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18 บาท) คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้น YoY ใน 2Q21 จากการรับรู้กำไรจากโครงการโซลาร์ 20MWe ที่ได้ เพิ่มเข้ามาตั้งแต่ใน3Q20 และผลประกอบการจะเติบโตขึ้นแตะจุดสูงสุดใน 3Q21 จากผลงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศลาวด้วยปัจจัยตามฤดูกาล
TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 8.45 บาท) คาดกำไร 2Q21 จะออกมาอยู่ที่ 50 ลบ. (+4%YoY,+7%QoQ) ยังเห็นการเติบโตได้ท่ามกลางการระบาดครั้งใหม่ที่เริ่มตั้งแต่เดือนเม.ย. ได้รับแรงหนุนจากการขายสินค้าแก้วใหญ่ และรายได้จากการ Delivery ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่อย่าง Warbie Yama เข้ามา
