บล.ทรีนีตี้:

ไทยออยล์ –TOP คาดกำไร 2.6 พันล้านบาท ลดลง QoQ จาก stock gain น้อยลง

  • ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 53 บาทอิง Avg -0.5SD PBV ที่ 0.9 เท่า (เดิม Avg PBV ที่ 1 เท่า) คงคำแนะนำเป็น “ถือ” ด้วยแนวโน้มผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะชะลอตัวใน 2H21 โดยราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนความหวังของการฟื้นตัวของกำไรไปแล้วจาก EV/EBITDA ที่ซื้อขายเกินกว่า +2SD ที่ 11 เท่า
  • เราคาด TOP จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q21 ที่ 2.6 พันล้านบาท +6% YoY, -21% QoQ โดยเป็นผลของ stock gain ที่เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
  • คาดกำไรปกติจะอยู่ราว 1.4 พันล้านบาท ปรับดีขึ้นจาก 1Q21 +19% QoQ โดยหลักเป็นผลจากธุรกิจ Lube และ Aromatic
  • เรายังคงประมาณการกำไรปกติซึ่งไม่รวมผลของ Stock gain และ Extra อื่นๆ ได้ที่ 4.3 พันล้านบาท โดยกำไรปกติใน 1H21 2.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของประมาณการ

Earning preview: TOP คาดกำไรลดลง QoQ จาก stock gain น้อยลง

เราคาด TOP จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q21 ที่ 2.6 พันล้านบาท +6% YoY, -21% QoQ โดยปรับดีขึ้น YoY จาก Stock gain ที่เพิ่มขึ้นและลดลง QoQ จาก Stock gain ที่ลดลง ซึ่งเราประเมิน Stock gain ใน 2Q21 จะอยู่ราว 3.2 พันล้านบาท และมี FX loss ประมาณ 2 พันล้านบาท จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ดังนั้นกำไรปกติเราคาดจะอยู่ราว 1.4 พันล้านบาท ปรับดีขึ้นจาก 1Q21 +19% QoQ โดยหลักเป็นผลจากธุรกิจ Lube และ Aromatic

  1. คาด Market GRM ดีขึ้นจาก 1Q21 ที่ USD0.7/bbl มาอยู่ที่ USD1/bbl โดยถึงแม้ gasoline จะปรับเพิ่มขึ้นกว่า +USD2.7/bbl QoQ แต่ Crude premium ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน
  2. คาดกลุ่ม Aromatic มี GIM ปรับดีขึ้นจาก 1Q21 ที่ USD2/bbl มาเป็น USD3/bbl จากกลุ่ม PX และสาร Bz ที่ยังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น
  3. คาดธุรกิจ Lube จะมี GIM ปรับดีขึ้นเช่นกันจาก 1Q21 ที่ USD1.5/bbl มาเป็น USD2/bbl จากปัจจัยฤดูการที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น

คงประมาณการกำไรปกติที่ 4.3 พันล้านบาท

เรายังคงประมาณการกำไรปกติ ซึ่งไม่รวมผลของ Stock gain และ Extra อื่น ๆ ไว้ที่ 4.3 พันล้านบาท โดยกำไรปกติใน 1H21 2.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของประมาณการของเรา โดยเรายังคงมุมมองเชิงระมัดระวังสำหรับผลการดำเนินงานใน 2H21 จากการแพร่ระบาด COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูป จากที่หลายประเทศเริ่มมาตรการ lockdown ครั้งใหม่

ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 53 บาท (ยังไม่รวมกรณีเพิ่มทุน)

ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 53 บาทอิง Avg -0.5SD PBV ที่ 0.9 เท่า (เดิม Avg PBV ที่ 1 เท่า) คงคำแนะนำเป็น “ถือ” ด้วยแนวโน้มผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะชะลอตัวใน 2H21 โดยราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนความหวังของการฟื้นตัวของกำไรไปแล้วจาก EV/EBITDA ที่ซื้อขายเกินกว่า +2SD ที่ 11 เท่า

ความเสี่ยง: ความเสี่ยงจาก Supply ที่ล้นตลาด ในขณะที่ Demand ลดลงจากเศรษฐกิจ

- Advertisement -