บล.บัวหลวง:

Chularat Hospital (CHG TB/CHG.BK)

CHG – ต่ำกว่าคาดอย่างมาก! คาดไตรมาส 4/65 ปรับตัวดีขึ้น

ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดมาก

CHG รายงานกำไรหลักไตรมาส 3/65 ที่ 258 ล้านบาท ลดลง 84% YoY และ 71% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 47% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 45% (อัตรากําไรขั้นต้นต่ำกว่าที่เราคาด 8.4%)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

รายได้จากธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท ในไตรมาส 3/65 ลดลง 54% YoY และ 27% QoQ รายได้จากกลุ่มที่เกี่ยวกับโควิดอยู่ที่ 300 ล้านบาท (คิดเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาส 3/65) รายได้ของบริษัทแบ่งได้เป็น รายได้ผู้ป่วยเงินสด 65% รายได้จากสำนักงานประกันสังคม 28% และจากสปสช. 7% ซึ่งรายได้ผู้ป่วยเงินสดเติบโต 19% YoY และ 4% QoQ รายได้จากสํานักงานประกันสังคม อยู่ที่ 565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% YoY และ 16% QoQ หนุนโดยการลงทะเบียนสมาชิกประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นในโรงพยาบาล CHG และการดูแลผู้ป่วยในที่มีต้นทุนสูง รายได้จากผู้ป่วยของสปสช. ลดลง 95% YoY และ 86% QoQ) เนื่องจาการเปลี่ยนแปลงระบบการจ่ายเงินของรัฐบาลสําหรับโรงพยาบาลเอกชน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 29.1% เนื่องจากการตั้งสำรอง 175 ล้านบาทสําหรับวัคซีน Moderna COVID ที่หมดอายุ (เท่ากับต้นทุน) ลดลงจาก 51.5% ในไตรมาส 3/64 และ 47.4% ในไตรมาส 3/65 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 12.1% เพิ่มขึ้น 4.5% YoY และ 4.3% QoQ สถานะเงินสดสุทธิ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 349 ล้านบาท

แนวโน้ม

กําไรในไตรมาส 4/65 จะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากการเปรียบเทียบฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/65 โดยรายได้ในไตรมาสนี้จะลดลง YoY (รายได้ จากสปสช.ที่ลดลง เนื่องจากไวรัส Omicron ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอ่อนแอกว่าไวรัส Delta ในไตรมาส 4/64) แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากรายได้ประกันสังคมที่สูงขึ้น QoQ (สมาชิกประกันสังคมที่ลงทะเบียนกับโรงพยาบาลของ CHG มากขึ้น และรายได้จากการดูแลผู้ป่วยในที่มีต้นทุนสูง) บริษัทจะบันทึกรายได้เพิ่มเติมเพียงครั้งเดียวสําหรับการรักษาเรื้อรังในงบกำไรขาดทุนไตรมาส 4/65 (เราคาดว่าอยู่ที่ 150-200 ล้านบาท) ซึ่งจะไปอยู่ที่กำไรสุทธิ ดังนั้น อัตรากําไรหลักน่าจะเพิ่มขึ้น QoQ (แต่ลดลง YoY) คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 3/65 ที่น่าผิดหวังเข้าไปในประมาณการของเรา เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2565 ลง 4% เหลือ 3.1 พันล้านบาท (ลดลง 27% YoY จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564) รายได้หลัก 9 เดือนแรกของปี 2565 คิดเป็น 81% ของประมาณการใหม่ของเรา (แต่คิดเป็น 85% ของประมาณการตลาดในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีการปรับประมาณการตลาดเพิ่มขึ้น) สําหรับปี 2566 เราคาดกำไรหลักที่ 1.5 พันล้าน บาทลดลง 52% YoY เนื่องจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับโควิดลดลง อัตรากําไรหลักคาดว่าจะอยู่ที่ 17.4% ในปีนี้ ลดลง 10.7% YoY เราคาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายในปี 2566 ที่ 10.9% เพิ่มขึ้น 2.7% YoY จากประมาณการของเราในปี 2565

คำแนะนำ

ราคาหุ้น CHG ได้ปรับตัวลดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งราคาหุ้นได้สะท้อนกำไรไตรมาส 3/65 ที่ต่ำกว่าคาดไปเรียบร้อยแล้ว เรามองว่าราคาปัจจุบันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดถูกรายงานไว้ในงบการเงินไตรมาส 3/65 เราปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 4.30 บาท (บนสมมติฐาน WACC ที่ 6.9% และ Terminal Growth ที่ 2.0%)

- Advertisement -