ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ร่วง 14 จุด (-0.85%) ปิดที่ระดับ 1,623 จุด จากแรงเทขายหุ้น Big Cap ในหลายกลุ่มธุรกิจ นำโดย กลุ่มธนาคาร, น้ำมัน, โรงกลั่น และกลุ่มโรงพยาบาล
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,615 – 1,630 จุด โดยภาวะตลาดถูกแรงกดดันจาก Fund flow ต่างชาติที่กลับเป็น Net sell ตามความกังวล FED เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจากความกังวลจีนล็อกดาวน์หลังยอดติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้น ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ Selective buy ในกลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- AOT CENTEL ERW BA AAV CPN CRC CPALL BEM BTS BH BDMS อานิสงส์การเปิดประเทศ
- KBANK BBL SCB KTB TTB อานิสงส์ภาวะเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว
- GPSC BGRIM GULF SCGP SCC อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง
หุ้นแนะนำวันนี้
- BEM (ปิด 9.5 ซื้อ /เป้า 11.50 บาท) ไตรมาส 3 ว่าดีแล้วไตรมาส 4 จะดียิ่งกว่าจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าไต้ดิน ล่าสุดมีข่าวดีBEM เตรียมประชุมบอร์ดเพื่อเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้ม 28 พ.ย.นี้
- GPSC (ปิด 67.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาพลังงานปรับตัวลง ขณะเดียวกันมีข่าวดี กกพ.เตรียมปรับค่า Ft รอบเดือน ม.ค.- เม.ย. 66 เป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP
บทวิเคราะห์วันนี้: AMATA, ANAN, BDMS, BTS, PLANB, PSH, SIRI, TLI, TRUE
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) น้ำมันร่วงแรงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในจีนพุ่ง และOPEC ลดดีมานด์: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 3.09$ (-3.5%) ปิดที่ 85.87$/bbl จาก 1)กังวลจีนกลับมาปิดประเทศหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นแตะ 16,203 รายและ 2) OPEC ลดคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันดิบในปีนี้และปีหน้า 100,000 บาร์เรลต่อวัน
(-) คณะกรรมการเฟดยังเห็นต่างต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย: นางลาเอล เบรนาร์ด รองประธานเฟดส่งสัญญาณจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ แต่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดย้ำจะยังไม่ผ่อนคลายมาตรการต่อสู้กับเงินเฟ้อ แม้ว่าเงินเฟ้อปรับตัวต่ำกว่าคาดในเดือนต.ค. ที่ผ่านมา
(+) ติดตามดัชนีผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค.ชี้ทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุด: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PPI เดือน ต.ค.จะลดลงสู่ระดับ 8.3% จาก 8.5% ในเดือน ก.ย.ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แต่ Core PPI คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 7.2% ตามเดิม
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+/-) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เสนอ 3 ทางเลือกเพื่อปรับค่า Ft งวด ม.ค.- เม.ย.66 ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจะปรับขึ้น 5.37-6.03 บาท/หน่วย
สหรัฐ
(-) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 33,536.70 จุด ลดลง 211.16 จุด (0.63%) โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มการเงินดิ่งลงน้ำตลาด ขณะที่นักลงทุนประเมินการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ยุโรป
(+) ยูโรโซน – การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 4.9%yoy สูงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 2.8%yoy และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.8%yoy
เอเชีย
(-) ญี่ปุ่น – GDP ไตรมาส 3/22 หดตัวลง 0.3% ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า 1.1% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.3%
ประเด็นข่าวย่อยรายบริษัท
