สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่าน มาดัชนีดัชนีปรับตัวลงแรงต่ำสุดถึง -19 จุด แรงขายกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และกลุ่มการแพทย์ ส่วนช่วงปิดตลาดดัชนีลดช่วงลบ เหลือ -14 จุด ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวคละเคล้าท้ังบวก และลบ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,623.38 จุด -13.91 จุด -0.85% มูลค่าการซื้อขาย 64,876 ลบ. ต่างชาติ -2,317.86 ลบ. TFEX -9,712 สัญญา ตราสารหน้ี -716.41 ลบ.

ปัจจัยบวก +

+ ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ประชุมทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนเมื่อวานนี้ โดยผู้นำทั้งสองได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมาในหลายประเด็นเกี่ยวกับผลประโยชน์ของสหรัฐและจีน

+ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) แสดงความ คาดหวังว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศจะสามารถก้าวผ่านมรสุมไปได้อย่างราบรื่น หลังข้อมูลเมื่อไม่นานมาน้ีแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์เริ่มกระเตื้องขึ้น

+ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกปี 65 (ม.ค.-ต.ค.) คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่าง ด้าวได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยจ่านวน 480 ราย เม็ดเงินลงทุนรวม ทั้งสิ้น 106,437 ล้านบาท

+ ททท.เตรียมเสนอกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อนำเสนอ ครม. วงเงิน 8,700 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศ ในวันที่ 28 พ.ย. 2565 ระยะดำเนินมาตรการตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย.2566

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 211.16 จุด หรือ -0.63% โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาด  ขณะที่นักลงทุนประเมินการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับจับตาการเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต

-สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.09 ดอลลาร์ -3.5% ปิดท่ี 85.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าจีนจะใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น นอกจากน้ี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดน้ำมัน

– กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มซบเซามากกว่าที่ IMF คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าน้ี เมื่อพิจารณาจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

– กกพ. เผย 3 ทางเลือกปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่เดือน ม.ค.-เม.ย.66 ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ประชาชนต้องจ่าย 4.72 บาทต่อหน่วย ขยับขึ้นเป็น 5.37, 5.70 และ 6.03 บาทต่อหน่วย เปิดรับฟังความเห็น 14-27 พ.ย.น้ี ก่อน ประกาศใช้จริง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาส Rebound หลังปรับตัวลงแรงวันก่อน โดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็น มาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตที่จะรายงานวันนี้ ขณะท่ีราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,615-1,630 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK
  • ลุ้น ครม. คนละครึ่งเฟส 6 และเราเที่ยวด้วยกัน : TNP KK ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA AAV BA AOT
  • ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ย. ขยายตัว : TU GFPT TFG ASIAN
  • ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
  • MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย. :
    • MSCI Global Standard หุ้นเข้า : – , หุ้นออก : BAM
    • MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX

หุ้นรายงานพิเศษ

STP (ซื้อ ราคาเหมาะสม 21.30 บาท)

  • รายงานกำไร 3Q65 ที่ 30 ลบ. -2%QoQ แต่ +7.2%YoY แม้ว่ารายได้จะปรับตัวขึ้นสู่ 148 ลบ. +2.2%QoQ และ +9.5%YoY เนื่องจากคาสั่งซื้อยังทรงตัวในระดับสูง และคาดอัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวที่ 35% แม้ว่าต้นทุนราคากระดาษในตลาดโลกจะปรับตัวลงแต่เงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ต้นทุนยังทรงตัว อย่างไรก็ตาม มีค่าใช้จ่ายในการตัดจำหน่ายทรัพย์สินอาคารราว 2.1 ลบ. (2Q65 มีค่าใช้จ่ายในการเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ 1.3 ลบ.) ท้ังน้ีผลประกอบการ 9M65 อยู่ที่ 94 ลบ. -4%YoY
  • คาดผลประกอบการจะเติบโตต้ังแต่ 4Q65 เป็นต้นไป เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องจักร 3 เครื่องปลาย 3Q65 (เร่ิมรับรู้รายได้ 4Q65) และจะมีการติดตั้งเพิ่มอีกใน 4Q65 และ 1Q66 ซึ่งจะลดการส่งงานไปผลิตยังโรงงานภายนอก (outsource) ซึ่งมีต้นทุนสูงได้เป็นปัจจัยหนุนต่ออัตรากำไรขั้นต้นต้ังแต่ 4Q65 เป็นต้นไป
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อ STP โดยแนะนำ ซื้อสะสม เนื่องจากผลประกอบการจะกลับมาเติบโตใน 4Q65 และ P/E Ratio ท่ีต่ำเพียง 12 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยในกลุ่มอยู่ที่ 20 เท่า และคาดหวังอัตราผลตอบแทน 3-4% ต่อปี

หุ้นมีข่าว

(+) JWD (Bloomberg Consensus 23.00 บาท) มั่นใจรายได้ปี 2565 โตเข้าเป้า 15% ยืนเหนือ 6 พันล้านบาทได้ตามเป้าจับตา Q4/2565 เด่น เข้าไฮซีซันธุรกิจโลจิสติกส์ มองยานยนต์ฟื้นตัว จีนลงทุน EV Car ในไทยหนุนเดินหน้าควบรวมกิจการ SCGL ปักธงปี 2570 ดันมาร์เก็ตแคปแตะ 100,000 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg Consensus 7.50 บาท) เดินหน้าโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง คาดว่าเริ่มส่งออกได้ในไตรมาส 4/2565 โอกาสต่อยอด OEM พร้อมลุยขยาย alt.Eatery ร้านค้า Flagship เพื่อนำร่องในสถานีบริการน้ำมันของ OR แห่งแรกที่สาขาวิภาวดีรังสิต ภายในปี 2566 ส่วนผลงานไตรมาส 3/2565 กำไร 178 ล้านบาท โต 55.5% กวาดรายได้ 579.3 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DITTO-TEAMG (Bloomberg consensus 62.00 / – บาท) “DITTO” บอร์ดไฟเขียวร่วมลงทุน 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ วงษ์สยาม และ TEAMG ตั้งบริษัทพัฒนาและบริหารจัดการนำทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท พร้อมตั้ง บริษัท ดีทีเอ็กซ์ ดิทโต้ จำกัด ถือหุ้นร่วมกับ TEAMG คนละครึ่ง ลุยโครงการนวัตกรรมเทคโนโลยี โชว์กำไรไตรมาส 3/2565 ทำนิวไฮทะลุ 70 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) UAC (Bloomberg consensus – บาท) แย้มผลงานไตรมาส 4/2565 โดดเด่น หลังแหล่งผลิต ปิโตรเลียม L11/43 จังหวัดสุโขทัย เริ่มจำหน่ายน้ำมันดิบได้แล้ว และโครงการ EV Charging Station ได้เปิดบริการแล้ว 2 สถานี จ่อเดินหน้าขยายต่อให้ครบ 50 สถานี หรือ 150 หัวจ่ายภายในปีหน้า มั่นใจรายได้ปีน้ีเข้าเป้าแตะ 2 พันล้านบาท ส่วนผลงาน 9 เดือน มีรายได้ 1,276.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.91% (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 18-19 พ.ย. ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 (APEC 2022)
  • สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • 21 พ.ย. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP 3Q65
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
    • สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
  • 25 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์รายงานดุลการค้า
  • 30 พ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 6
    • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 6 ธ.ค. ก.พาณิชย์รายงานตัวเลข CPI เดือนต.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 15 พ.ย. จีน รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนต.ค. ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.
    • อียู รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 3Q65 ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เดือนพ.ย.จากสถาบัน ZEW
    • สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย.จากเฟด นิวยอร์ก
  • 16 พ.ย. สหรัฐ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. การผลิต ภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย.จากสมาคม ผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
  • 17 พ.ย. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์
- Advertisement -