บล.ทรีนีตี้:
แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ – LPN หวังพึ่งการขายและโอนโครงการใน Inventory เป็นหลัก
- รายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 121 ล้านบาทปรับตัวลดลง 1.5%QoQ และ 21.2%YoY โดยที่มีรายได้จากการขายโครงการที่ 977 ล้านบาทปรับตัวลดลง 7.5%QoQ และ 20.3% YoY
- มียอด Backlog รอโอนในช่วงที่เหลือของปี 2564 ที่ 922 ล้านบาท (โครงการแนวราบ 700 ล้านบาทและคอนโดที่ 222 ล้านบาท)
- คาดปี 2565 จะเพิ่มแบรนด์ใหม่คอนโดระดับบนช่วยเพิ่มยอดขายและโอน
- ยังคงคาดการณ์กำไรปี 2564 ที่ 870 ล้านบาทจากรายได้รวมที่ 6.48 พันล้านบาท
- ยังคงแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 4.13 บาท
2Q64 Earnings Review
- LPN รายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 121 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 1.5%QoQ และ 21.2%YoY โดยที่มีรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ 977 ล้านบาทปรับตัวลดลง 7.5%QoQ และ 20.3%YoY และรายได้จากค่าเช่าที่ 72.88 ล้านบาทปรับตัวลดลง 5.9%QoQ แต่ปรับตัวสูงขึ้น 82%YoY
- Gross Margin รวมใน 2Q62 อยู่ที่ 26% สูงขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 25.6% ใน 1064 ยอด Presales ใน 2Q64 อยู่ที่ 2.02 พันล้านบาทส่งผลให้ยอดรวมใน 1H64 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท นับเป็น 41% ของเป้าที่ 1.0 หมื่นล้านบาท (สัดส่วนจากคอนโดที่ 7.0 พันล้านบาทและจากโครงการแนวราบที่ 3.0 พันล้านบาท) โดยที่ใน 2Q64 ได้มีการเปิดขายโครงการอาคารพานิชย์ 14 ยูนิตมูลค่ารวม 110 ล้านบาท และได้ทำการขายหมดทั้ง 14 ยูนิตแล้ว ในขณะที่ยังไม่มีการเปิดตัวโครงการคอนโดในช่วง 1H64 แต่ได้ทำการ Soft Launch โครงการบ้าน 365 เมืองทองไปในช่วงปลายเดือนมิ. ย. 2564
- มียอด Backlog รวมที่ 2.6 พันล้านบาท เป็นยอดที่รอโอนในช่วงที่เหลือของปี 2564 ที่ 922 ล้านบาท (โครงการแนวราบ 700 ล้านบาทและคอนโดที่ 222 ล้านบาท)
ยังคงคาดการณ์ปี 2564 จากผลประกอบการ 2H64 ที่คาดว่าจะแกร่งกว่า 1H64
ยอดโอน 1H64 นับเป็น 31.3% ของที่เราคาดการณ์ยอดโอนปี 2564 ที่ 6.48 พันล้านบาท และหากรวมยอด Backlog ที่รอโอนใน 2H64 ที่ 922 ล้านบาทจะนับเป็น 46% ของที่คาดการณ์โดยในช่วง 2964 LPN สามารถทำยอดขายคอนโดใน Inventory ได้ราว 500 ล้านบาท และยังคงคาดการณ์กำไรปี 2564 ที่ 872 ล้านบาทโดยที่กำไรใน 1H64 ทำไปได้ที่ 243 ล้านบาทนับเป็น 27.8% ของที่คาดการณ์และในช่วง 2H64 มีโอกาสที่ Gross Margin จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจาก 26% ในช่วง 1H64 เนื่องจากใน 3Q64 เริ่มมีการใช้ Pricing มาช่วยเพิ่มยอดขายในบางโครงการ อย่างไรก็ดีในช่วง 3964 ได้เปิดตัวโครงการใหม่ Lumpini Ville Charan Fai Chai มูลค่า 960 ล้านบาทมียอดขายที่ 12% และได้เริ่มขายโครงการ Baan 365 เมืองทองเฟส 1 ซึ่งสามารถทำยอดขายในส่วนของ Home Office ไปได้บ้าง และคาดว่าหลังจากที่บ้านตัวอย่างเสร็จจะมียอดขายเข้ามาเพิ่มและในปี 2565 คาดว่าจะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่จะเป็นโครงการคอนโดขนาดเล็กระดับบนเนื่องจากจะเป็นการเพิ่มยอด Backlog ของปี 2565 จากการเป็นโครงการขนาดเล็กที่จะสามารถเปิดขายและโอนได้ภายในปี
ยังคงแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 4.13 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 4.13 บาทโดยอิง EPS 2564F ที่ 0.59 บาท/หุ้น และค่าเฉลี่ย P/E ย้อนหลัง (-0.5SD) 5 ปี ที่ 7x เนื่องจากรายได้จากการโอนในช่วง 2H64 จะมาจากการขายโครงการใน Inventory เป็นหลัก ส่งผลให้คาดว่า Gross Margin โดยรวมอาจลดลงเล็กน้อย และเนื่องจากการโอนโครงการ Lumpini Place Taopoon ที่เดิมจะต้องโอนใน 4Q64 ได้เลื่อนไปโอนใน 1Q65 แทน ส่งผลให้ปี 2564 ไม่มีการโอนโครงการคอนโดใหม่
ปัจจัยเสี่ยง
ยอดปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคารเป็นปัจจัยหลักที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากโครงการของส่วนมากมีราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาท ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้ลูกค้าเลื่อนการซื้อไปในอนาคต, ราคาที่ดินในบริเวณเขตธุรกิจ (CBD) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนโครงการสูงขึ้นเช่นกันใน ขณะที่ LPN ได้ชะลอการเปิดโครงการใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มียอด Backlog ที่น่าเป็นห่วง, มาตรการปรับเกณฑ์ LTV ขึ้นและภาษีที่ดินฉบับใหม่ ส่งผลให้ยอดขายถูกกดดันในขณะที่การชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลกระทบต่อ Sentiment ในการซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ