บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

The Erawan Group (ERW.BK/ERW TB)

คาดพลิกกลับมามีกำไรได้ใน 4Q65F

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

Impact

เห็นสัญญาณฟื้นตัวเด่นชัดขึ้นใน 3Q65

สัญญาณฟื้นตัวของธุรกิจโรมแรมชัดเจนมากขึ้นใน 3Q65 ประกอบด้วย i) สัดส่วนรายได้ค่าห้องพักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 3Q65 พุ่งสูงขึ้นเป็น 82% เปรียบเทียบกับ 71% ใน 2Q65 และสัดส่วนก่อนโรคระบาดที่ 90% ในปี 2562 และ ii) รายได้จาก F&B (เช่น MICE และการจัดงานฉลองมงคลสมรส) เห็นการฟื้นตัวกลับมาคิดเป็น 74% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด

คาดผลประกอบการใน 4Q65F พลิกกลับมามีกำไร

Occupancy (ไม่รวมโรงแรมกลุ่ม budget) เดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ 78% (ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 67% ใน 3Q65) โดยเราคาดรายได้จากนักท่องต่างชาติจะเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับอุปสงค์จากนักท่องเที่ยวไทยอาจได้รับแรงส่งจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ด้วยปัจจัยบวกที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เราจึงคาดว่าผลประกอบการใน 4Q65F จะกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเริ่มมีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19

เตรียมเปิดตัวโรงแรม Hop Inn ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่งใน 4Q65F

หลังจากได้เปิดโรงแรม Hop Inn จำนวน 6 แห่งไปแล้วในช่วง 9M65 ทำให้ ERW มีโรงแรม Hop Inn รวมเป็น 48 แห่ง (3,940 ห้อง) เมื่อสิ้นงวด 3Q65 ขณะที่ตามแผนในอนาคต ERW เตรียมเปิดโรงแรม Hop Inn แห่งใหม่เพิ่มอีก 3 แห่งที่กรุงเทพ (ทำเลบริเวณบางนา อ่อนนุช และกรุงธนบุรี) ทั้งนี้แผนการขยายโรงแรมยังเป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวของ ERW ที่เน้นโรงแรมกลุ่ม budget ขณะที่เราคาดว่าสัดส่วน D/E จะยังควบคุมได้ที่ 1.9x ณ สิ้นปี 2565F (ต่ำว่า debt covenant ที่ 2.5x)

ผลบวกจากการประชุม APEC

เราคาดว่าการประชุม APEC 2022 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพ จะส่งผลบวกเพียงเล็กน้อยต่อหุ้นกลุ่มโรงแรมที่เราศึกษาอยู่ เนื่องจากเป็นปัจจัยที่เข้ามาในช่วงระยะสั้น จากการสำรวจล่าสุด พบว่าโรมแรงสามารถขึ้นค่าห้องพักได้ดี โดยเฉพาะโรงแรมระดับหรูในกรุงเทพฯ โดยโรงแรม JW Marriot ของ ERW มี Occupancy สูงเกิน 90% ในช่วงเวลาของการประชุม

Valuation & action

คงแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 5.10 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2566F ที่ 17.9x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว +1.5SD

Risks

การแพร่ระบาด COVID-19 ยาวนานกว่าคาด

- Advertisement -