Our View? “รอฟังเฟดเซนต์หลุยส์”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,613/1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,625 / 1,630 เรามองตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หลังปรับตัวขึ้นรับรู้ประเด็นธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง ตามทิศทางอัตราเงินเฟ้อทั้งฝั่งผู้บริโภคและผู้ผลิตเริ่มอ่อนตัวลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง โดยล่าสุด CME FEDWatch Tools คาดการณ์ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50% ในเดือน ธ.ค. ก่อนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% อีก 2 ครั้งในเดือน ก.พ. และ มี.ค.’66 จนอัตราดอกเบี้ยขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ระดับไม่เกิน 5.00% อย่างไรก็ดี เราคาดว่าคืนนี้ตลาดจะแกว่งตัวเพื่อรอดูถ้อยแถลงของประธาน FED ในหลายสาขา โดยเฉพาะนายเจมส์ บัลลาร์ด (James Bullard) ประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์ เกี่ยวกับมุมมองแต่ทิศทางเศรษฐกิจ, เงินเฟ้อ และแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป เพื่อประเมินสถาการณ์ลงทุนอีกครั้งในคืนนี้
ในส่วนของประเด็นขีปนาวุธถูกยิงตกในหมู่บ้านทางตะวันออกของโปแลนด์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน คาดตลาดอาจเริ่มคลายความกังวลดังกล่าวบ้างแล้ว หลัง NATO เรียกประชุมเมื่อวานนี้ โดยเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธดังกล่าวอาจเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเพื่อสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย คาดจะผ่อนคลายบรรยากาศความตึงเครียดได้บ้าง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงอีกครั้ง ปิดที่ระดับ 85.59 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.33 ดอลลาร์ (-1.53%) ได้รับแรงกดดันจากรายงานรัสเซียเริ่มกลับมาส่งน้ำมันผ่านทางท่อส่งครูชบา (Druzhba) ของบริษัททรานส์เนฟท์แล้วหลังถูกระงับเป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบปัญหาแรงดันตก ขณะที่ประเด็นการแพร่ระบาดอีกครั้งของ COVID-19 คาดจะยังกดดันอุปสงค์น้ำมันได้อยู่ คาดเป็นปัจจัยจำกัด Upside การฟื้นตัวของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม เราแนะนำติดตามท่าทีของ OPEC+ สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าแกว่งตัวในระดับ 81.00-92.00 เหรียญต่อไป
หลังเริ่มส่งสัญญาณเตรียมแทรกแซงราคาน้ำมันหลังทิศทางราคาน้ำมันอ่อนตัวลง คาดจะส่งผลให้ราคาสําหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) คาดเศรษฐกิจไทย 3Q′65 จะขยายตัวขึ้น 3.0% จากการท่องเที่ยวและการบริโภคฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งคาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ 3.4% ในปีนี้ มองเป็นจิตวิทยาต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประกาศผลประกอบการ 3Q65 ของตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุด Bloomberg Consensus คาดการณ์ EPS ตลาดหุ้นไทยในช่วงปีนี้ลดลงเหลือระดับเพียง 103.8+/- จากช่วงแรงของการประกาศผลประกอบการที่ระดับ 106.0+/- สะท้อนแนวโน้มการปรับประมาณการขึ้นของผลกําไรของ บจ. ในตลาด โดยนักวิเคราะห์เริ่มลดลง ขณะที่สัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามการประชุม APEC คาดอาจเห็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจในกลุ่ม APEC มากขึ้น มองเป็นปัจจัยเชิงบวกหนุนทิศทางเศรฐกิจไทยในช่วงปีหน้าฟื้นตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง (HMPRO, GLOBAL, DOHOME และ TASCO) และหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการออกงบเยียวยาน้ำท่วม หลังสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการรัฐ อาทิ ช็อปดีมีคืนในช่วงปลายปี รวมทั้งหุ้นในกลุ่มโฆษณา (PLANB และ VGI) ที่คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ช่วง 3Q′65 คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “VGI”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 4.20 / 4.10 Target 4.70 / 5.20 Stop <4.00