รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี Sideways
Market wrap & Outlook
- วานนี้ดัชนีรีบาวน์ตามคาด นำโดยพลังงาน PTTEP PTT GULF BANPU โรงกลุ่ม TOP SPRC และอื่นๆ MAKRO AOT DELTA รวมทั้งหุ้นบวกแรง เช่น TH TEAM AMARC BBIK ส่วนหุ้นกดดันตลาด ได้แก่ CPALL CPF AWC BJC เป็นต้น
- วันนี้คาดดัชนี Sideways โดยรายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ไม่ได้มีเซอร์ไพรส์ตลาดทั้งบวก-ลบ ปลดล็อค Overhang ตลาด แต่ก็ยังไม่เห็นมีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นต่อในช่วงนี้ ขณะที่ตัวเลขสำคัญถัดๆ ไป คือ รายงาน PCE (ต.ค.) สัปดาห์หน้า ต่อเนื่อง CPI (พ.ย.) ในกลางเดือน ธ.ค. จะคอนเฟิร์มภาพเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงส่งท้ายปีนี้ นอกจากแนะรันเทรนด์หุ้นค้า Commerce CRC CPN BJC COM7 MAKRO
- วันนี้กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรหุ้นเทคฯ Growth Stock ที่มีปัจจัยหนุนระยะสั้น นั่นคือ…
What to watch
- รายงานการประชุมเฟด เมื่อคืนที่ผ่านมา ยืนยันภาพที่ตลาดคาดว่าเฟดจะลดความเข้มงวดของนโยบายการเงินลง และชี้ไปถึงการปรับเพิ่มดอกเบี้ยที่ชะลอตัวลง แต่ก็ยังเห็นมีกล่าวเป็นนัยฯ อีกด้านว่า “ตัวเลขเงินเฟ้อยังไม่ได้ส่งสัญญาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ” // Fedwatch tool สำรวจความเห็นส่วนใหญ่ 76% ยังมองการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรอบถัดไปที่ 0.5%
- ตัวเลขสำคัญถัดไป คือ ติดตาม PCE (เดือน ต.ค.) ที่จะออก 1 ธ.ค. คาดล้อไปกับ CPI ที่ออกมาก่อนหน้า และตามด้วย CPI สำหรับเดือน พ.ย. ออกวันที่ 13 ธ.ค. จะคอนเฟิร์มเงินเฟ้อขาลงส่งท้ายปี
- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ วานนี้ เช่น PMI สหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ 46.3 ใน พ.ย. (จาก 48.2 ใน ต.ค.) การขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ 2.40 แสนราย มากกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 2.25 แสนราย
- มีรายงานกลุ่มประเทศ G7 และ EU เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ $65-70/บาร์เรล คาดบังคับใช้ 5 ธ.ค. กับการขนส่งจากรัสเซียทางเรือ (ไม่รวมท่อ) เพื่อเป็นมาตรการลงโทษการโจมตียูเครน
- AWC-CRC เข้า MSCI และจะมีการปรับน้ำหนักพร้อมกัน 30 พฤศจิกายน และเพิ่มน้ำหนัก OSP (หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
หุ้นแนะนำวันนี้
YGG เก็งกำไรหุ้น Growth / เกมส์ คาดกลับมาเล่นอีกครั้งรับกระแส Black Friday อีกทั้งพื้นฐานกลับมาเติบโตแกร่ง YoY, QoQ ใน 4Q22 และมี Catalysts/Upside จาก Line-up ของการทยอยเปิดตัวเกมในปีหน้า
Global Investing Brief: Fed ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย หนุนหุ้นสหรัฐ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- 3 ดัชนีหลักปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี DJIA +0.3%, S&P 500 +0.6%, Nasdaq +1% นำโดย Tesla (TSLA) +7.8%, Walt Disney (DIS) +2.8%, UnitedHealth (UNH) +1.3% หลัง Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลงแตะระดับ 3.75% จากรายงานการประชุม Fed ประจำวันที่ 1-2 พ.ย. 65 ที่ระบุว่า แม้เงินเฟ้อยังไม่ได้ส่งสัญญาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่กรรมการ Fed ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า มีความเหมาะสมที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ขณะที่ข้อมูลจาก FedFundFutures เผยตลาดให้น้ำหนักที่ 75.8% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.5%
- Morgan Stanley (MS) เผยว่าราคาหุ้น Tesla (TSLA) กำลังปรับตัวใกล้ราคาเป้าหมาย Bear Case ที่ $150 (ราคาปัจจุบันอยู่ที่ $183.20) ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการพิจารณาการลงทุน หลังปัจจัยพื้นฐานของหุ้นยังน่าสนใจ โดยรายได้ในปี 66 มีแนวโน้มโต 32%YoY แตะ $107bn ด้วยยอดขายรถราว 1.8 ล้านคัน นอกจากนี้เราคาดว่ายอดขายรถ EV จะได้รับอานิสงส์จากการให้เครดิตภาษี $7,500 แก่ผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ซื้อรถ EV ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขยายเวลาไปจนถึงปี 75 ขณะที่ TP จาก MS อยู่ที่ $330
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งฟื้น 0.6% ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำโดยหุ้นเทคฯ Baidu (9888) +3.4%, JD.com (9618) +3.1%, NetEase (9999) +2.5% หลังนายกฯ หลี่ เค่อเฉียง เผยในที่ประชุมสภาแห่งรัฐว่ามีแผนที่จะปรับลดอัตราเงินสำรองธนาคาร (RRR) ขณะที่คาดการณ์จาก Bloomberg cons. เผยว่าธนาคารกลางจีนอาจมีการปรับลด RRR ภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งนายกฯ ยังได้สนับสนุนให้เสนอสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือภาคอสังหาฯ
- Baidu (9888) เผยงบ 3Q65 ดีกว่าตลาดคาด โดยรายได้โต 2%YoY แตะ RMB32.5bn และกำไรโต 16%YoY สู่ RMB5.9bn หนุนจากธุรกิจ Cloud และ AI ที่โต 25%YoY ขณะที่บริการขับขี่อัตโนมัติ Apollo Go มียอดการใช้งานในจีนกว่า 474,000 ครั้ง เพิ่มขึ้นถึง 311%YoY และระบบขับขี่อัตโนมัติยังได้รับการอนุมัติใช้ในจีนแล้ว 63 เมือง เพิ่มขึ้นจาก 24 เมืองใน 3Q64 นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดตัวระบบนำทาง Apollo Navigation ใน 2H66 และคาดว่าจะมีรายได้ในปี 67 ด้าน Bloomberg cons. ให้ TP ที่ HKD157.48
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN ปรับลงต่อ 0.6% สวนทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ และฮ่องกง กดดันจาก HPG -6.8%, VIC -2.1%, VHM -2% ด้าน NVL ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับข่าวลือประเด็นสถานะทางการเงินที่ไม่แข็งแรงว่าไม่เป็นความจริง พร้อมเผยว่าหุ้นกู้ที่บริษัทออกนั้นได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายอย่างครบถ้วน นอกจากนี้กระทรวงการคลังเวียดนามได้เรียกโบรกเกอร์และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นกู้ร่วมหารือถึงวิธีการบรรเทาวิกฤติสินเชื่อในภาคอสังหาฯ ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและอาจนำไปสู่ความเป็นมาตรฐานในระยะยาว
- VRE มีแผนที่จะเปิดตัว 6 ห้างใหม่ในปี 66 โดยจะมีห้างใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ VMM Mall และ GFA in The Empire ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนรายได้และกำไรค่าเช่าพื้นที่ให้โตต่อเนื่อง ขณะที่โบรกเวียดนามคาดกำไรจากการให้บริการเช่าพื้นที่ห้างมีแนวโน้มโตเด่น 26%YoY แตะ VND4.3tn ในปี 66 และคาดว่าในระยะยาวอาจโตเฉลี่ยราว 21% ต่อปี ในปี 66-70 ด้าน TP อยู่ที่ VND37,500
Highlight
Amazon (AMZN) มีแผนเผยที่จะลงทุน $1bn ต่อปี เพื่อนำคอนเทนต์หนังใน Prime Video เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ โดยตั้งเป้าที่จะเปิดตัวจำนวนราว 12-15 เรื่องต่อปี เพื่อเป็นรายได้ช่องทางใหม่ นอกจากนี้บริษัทเผยที่จะที่จะปรับโฉมแพลตฟอร์มสตรีมมิงของ MGM ที่ได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อ มี.ค. 65 โดยจะเปิดตัวใน 15 ม.ค. 66
Greed & FearBarometer: มาตรวัดความโลภและความกลัว
Overview:
Sentiment Indicator อ่อนแอลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองแต่ยังคงอยู่ในโซน Greed สัญญาณแย่ลง เช่น ดัชนี Bull-to-Bear ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่สามหลังจากแตะระดับ Upper-bound ในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. รวมถึงดัชนี Volume Index และดัชนี Momentum Strength ที่ปรับตัวลดลง
มาตรวัดความโลภและความกลัว (Greed & Fear Barometer):
จิตวิทยาในตลาดหุ้นมักถูกผลักดันด้วยสองอารมณ์หลัก คือ ความโลภและความกลัว โดยเมื่อยิ่งมีอารมณ์โลภมาก (Extreme Greed) หรือ อารมณ์กลัวมาก (Extreme Fear) ขึ้นเท่าใด การตัดสินใจด้วยเหตุผลก็มักจะลดลงไปเท่านั้น เช่น เมื่อเกิด Extreme Greed นักลงทุนก็อาจจะไล่ซื้อหุ้นมากจนเกินไปโดยไม่สนใจราคา ในขณะที่เวลาเกิด Extreme Fear ก็จะขายหุ้นมากเกินไปด้วยความตื่นตระหนก ดังนั้นหากอารมณ์ตลาดยิ่งเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเท่าใด โอกาสที่ดัชนีจะสวิงกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามก็มากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุที่ภาวะ extreme นั้น มักทำให้เกิดการซื้อหรือขายมากเกินไป (Overbought/ Oversold)
BLS Greed & Fear Barometer คำนวณมาจากเครื่องชี้วัดดังต่อไปนี้ 1) Bull-to-Bear 2) Momentum Strength 3) Yield Spread (Bond vs Equity) 4) Market Volatility 5) Market Breadth และ 6) Volume Index
