บล.บัวหลวง:

Berli Jucker (BJC TB /BJC.BK)

BJC – ซื้อหุ้นจากธีมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ฟื้นตัว

BJC จะได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศไทย และการฟื้นตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภคผ่านทั้ง Big C และธุรกิจการผลิตของบริษัท เราคาดต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และการเสนอขายหุ้น IPO ของ Big C จะช่วยทําให้กำไรของ BJC ดีขึ้น ซื้อ!

BJC เป็นมากกว่าร้านค้าปลีก

กระแสรายได้ของ BJC มีความหลากหลายมากกว่าหุ้นค้าปลีกอื่นๆ ที่เราให้คําแนะนํา นอกจาก Big C แล้ว BJC ยังมีธุรกิจการผลิตสินค้าในประเทศไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ดังนั้น BJC จึงเป็นทั้งผู้ค้าปลีกที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ และเป็นผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค (เช่น บรรจุภัณฑ์แก้วและกระป๋องสําหรับเครื่องดื่ม กระดาษทิชชู่ สบู่ และมันฝรั่งทอด) อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการฟื้นตัวของอาเซียนหลังโควิด ที่สำคัญกว่านั้น เราคาดอัตรากําไรจะฟื้นตัว โดยเฉพาะในปี 2566 เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักหลายรายการ เช่น อะลูมิเนียมและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลง

กําไรฟื้นตัวปานกลางในไตรมาส 4/65 และปี 2566

แม้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะยังคงอยู่ในระดับสูงในไตรมาส 4/65 และ ปี 2566 โดยหลักมาจากค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น แต่เราคาดว่ายอดขายจะฟื้นตัว (โดยบริษัทเริ่มเห็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมเป็นบวกเล็กน้อยในไตรมาส 4/65 จนถึงปัจจุบัน) อัตรากำไรขั้นต้นและรายได้ค่าเช่าจะหนุนการเติบโตของก๋าไรทั้ง YoY และ QoQ ในช่วงไตรมาส 4/65 เมื่อมองไปข้างหน้า นอกเหนือจากรายได้จากการค้าปลีก และรายได้ค่าเช่าที่แข็งแกร่งของ Big C แล้ว กลุ่มอุตสาหกรรมของ BJC (คิดเป็น 40% ของกำไร) จะรายงานการ ฟื้นตัวของอัตรากำไรจากการปรับราคาผลิตภัณฑ์ (ซัพพลายเชนบรรจุภัณฑ์) และราคาวัตถุดิบที่ลดลง (โดยเฉพาะราคาน้ำมันปาล์มและอลูมิเนียม) ประมาณการของเราบ่งชี้ไปที่การเติบโตของกำไรต่อหุ้นในปี 2566 ที่ 17% YoY

การเสนอขายหุ้นของ BIG C จะหนุนกำไรในปี 2566 ของ BJC

บริษัทยังไม่ได้ยืนยันว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ BIGC แต่เราคิดว่าการเสนอขายหุ้น IPO มีแนวโน้มจะเป็นประโยชน์ต่อ BJC จากการลดค่าใช้จ่ายในการชำาระหนี้ จากประมาณการของเราที่มองกำไรสุทธิของ BIG C ที่ 3.7 พันล้านบาทในปี 2566 และ 4.3 พันล้านบาทในปี 2567 หาก Big C เสนอขายหุ้น IPO ในต้นปี 2566 เราคํานวณเบื้องต้นว่าอาจเพิ่มเงินสดให้กับ BJC ประมาณ 1.2-2.28 หมื่นล้านบาท (หากสมมติว่า BJC ขาย 15-20% ของสัดส่วนการถือหุ้นใน Big C เข้า IPO และอิงจาก PER ในช่วง 21-29 เท่า สอดคล้องกับกรอบ PER ของกลุ่ม) หาก BJC น่าเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นทั้งหมดไปชำระหนี้ จะมีอัพไซด์ประมาณ 4-8% ต่อประมาณ การกำไรปี 2566 ของเรา จากการที่บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยได้

มูลค่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี

ปัจจุบัน BJC ชื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 22.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอยู่ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และต่ำสุดในรอบ 10 ปี เรามองว่าตลาดได้สะท้อนการแข่งขันที่รุนแรงของกลุ่มค้าปลีกไปในราคาแล้ว

นอกจากน้ี BJC เองก็ซื้อขายในระดับ PER ท่ีต่ำกว่ากลุ่มค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคที่ซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ระดับ 30 เท่า หรือมากกว่าค่อนข้างมาก ดังนั้นความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะอยู่ในขาลงจึงอยู่ในระดับต่ำ ตรงกันข้าม เรามองราคาหุ้นน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมในเดือนพ.ย. และกำไรที่ฟื้นตัวในไตรมาส 4/65 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566

- Advertisement -