สรุปภาวะตลาด
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นถึง +10 จุด จากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงาน อสังหาฯ และค้าปลีก ในช่วงบ่าย กนง.มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามตลาดคาด ประกอบกับมีการปรับหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,635.36 จุด +10.97 จุด +0.68% มูลค่าการซื้อขาย 79,465 ลบ. ต่างชาติ +4,389.45 ลบ. TFEX +3,344 สัญญา ตราสารหนี้ +333.72 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 737.24 จุด +2.18% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. และภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้นยังอีกยาวไกล
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ +3.01% ปิดที่ 80.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งมุมมองบวกที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดน้ำมันด้วย
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากนายพาวเวลส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. เทียบกับช่วงก่อนที่นายพาวเวลแถลงที่นักลงทุนให้นําหนักสูงถึง 75%
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP 3Q65 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 2.9% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ 2.6% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7% ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและขาดดุลการค้าลดลง
+ กนง. มติเอกฉันท์ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ประเมินเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ต้องจับตา 2 ปัจจัยเสี่ยงใหญ่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการส่งผ่านต้นทุนธุรกิจที่สูงขึ้น ประเมินเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว
+ Fitch Ratings คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ
ปัจจัยลบ –
– นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนเปิดเผยว่าไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีหุ้นในอัตรา 0.1% เพราะจะกระทบต่อสภาพคล่องของการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยแน่นอน และหากสภาพคล่องในตลาดลดลงหรือไม่ น่าสนใจจะทำให้การระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนทำได้ยากขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าว ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นแรง หนุนหุ้น กลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,630-1,650 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- FTSE: Mid Cap หุ้นเข้า TLI
- ลุ้นช็อปดีมีคืนปี 66: BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
- จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเร่งตัวขึ้น: BCH CHG EKH THG WPH
- สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่ยังเติบโตได้ดี: TEAM HANA KCE SMT
หุ้นรายงานพิเศษ
CRC – Site Visiting ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 46 บาท
- CRC พานักวิเคราะห์เยี่ยมชมร้าน Tops CLUB ภายใต้โมเดลค้าปลีกใหม่ “Membership Store” สาขาแรกที่เซ็นทรัลพระราม 2 เสนอขายสินค้าแบรนด์ดังต่างประเทศหลากหลาย ตั้งแต่อาหารสดและแห้ง วัตถุดิบปรุง อาหาร ขนม เครื่องดื่ม เครื่องครัว ของใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่นเด็ก อุปกรณ์กีฬา อาหาร และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เปิดขายในร้านคู่ขนานไปกับการขายออนไลน์ ภายใต้รูปแบบ Omni Channel ซึ่งมีแผนเปิดครบ 8- 10 ร้านภายในปี 2570 และแนวคิดการปฏิรูปเหลือแบรนด์เดียว “Tops” เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ
- ความเห็น ฝ่ายวิจัยประเมิน CRC เป็นหุ้นในกลุ่ม re-opening และมีมุมมองบวกต่อแนวโน้ม 4Q65 ที่เป็นไฮซีซั่นในช่วงปลายปีที่มีปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศที่ปรับดีขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนการเติบโตของ SSSG และเป้ายอดขายปี 65 เติบโต 20% การขายสินค้าในรูปแบบ Omni Channel ที่มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่องในสถานการณ์ new normal และปี 66 มีโอกาสเติบโตดีต่อเนื่อง 9M65 รายงานกำไร 3,864 ล้านบาทพลิกจากขาดทุน 2,311 ล้านบาทใน 9M64 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรงวด 4Q65 เฉลี่ย 1,479 ล้านบาท -38%YoY +26%QoQ และคาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 6,169 ล้านบาทเติบโตสูงจากกำไรเพียง 59 ล้านบาทในปี 64 และเติบโต ต่อเนื่อง 36% เป็น 8,395 ล้านบาทในปี 66 แนะนำซื้อ
หุ้นมีข่าว
(+) JMART (Bloomberg Consensus 59.00 บาท) ซื้อสุกี้ตี๋น้อยเสร็จแล้ว เริ่มรับรู้รายได้ทันที ธ.ค. 65 “อดิศักดิ์” ชี้เป็นช่วงไฮซีซันพอดี ชูกำไรโตแรง ปีหน้าอาจเห็นรายได้ 3 พันล้านบาท กำไร 3 ร้อยล้านบาท พร้อมปั้นตี๋น้อยให้มูลค่าขยับนับหมื่นล้านบาท ชูซินเนอร์ยีสูง เตรียมวางระบบขยายสาขาเพียบ รุกต่างจังหวัด เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ ชี้กลุ่มเจมาร์ทจะได้อีโคซิสเต็มเพิ่มอีกเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) JKN (Bloomberg Consensus 5.45 บาท) พร้อมจัดประกวด Miss Universe 2022 ครั้งที่ 71 ปูพรมไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2023 มั่นใจกระแสตอบรับดี-สปอนเซอร์อ้าแขนรับให้การสนับสนุนเต็มสูบ ขณะที่เดินหน้าลุยธุรกิจน้ำดื่ม “MU Water” ต้ังเป้าวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ไตรมาส 2/66 คาดสร้างรายได้ปีแรก 250-300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BJC (Bloomberg consensus 40.00 บาท) มั่นใจยอดขายโค้งท้ายของปี 2565 เติบโตแกร่ง หนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น กระตุ้นยอดขายต่อสาขา (SSSG) ของ Big C ได้ทุกพื้นที่ รวมถึงยอดเช่าพื้นที่กลับมาเต็ม 100% ขณะที่คุมต้นทุนได้ดีเร่งติดตั้งโซลาร์รูฟ ลดต้นทุนพลังงานต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SCGP (Bloomberg consensus 62.00 บาท) ทุ่มงบลงทุน 450 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจโซลูชันบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ล่าสุดปิดดีลขยายการลงทุนใหม่ เข้าซื้อทรัพย์สินธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) จากบริษัท ไซเบอร์ พริ้นท์กรุ๊ป จำกัด (Cyber) ดันกำลังการผลิตเพิ่ม 12% (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 6 ธ.ค. ก.พาณิชย์รายงานตัวเลข CPI เดือนต.ค.
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 1 ธ.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากไฉซิน
- อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาค การผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล อัตราว่างงานเดือนต.ค.
- สหรัฐ รายงานอัตราว่างงานเดือนต.ค. รายได้ และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน พ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
- 2 ธ.ค. อียู รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค.
- สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนพ.ย.
- 4 ธ.ค. กลุ่มโอเปกพลัสประชุมนโยบายการผลิต
- 5 ธ.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย.จากไฉซิน
- 13-14 ธ.ค. กําหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ