KS Daily View 06.12.2022 > รอผลประชุม Fed กลางธ.ค. แนะสะสมหุ้น Defensive SET คาดแกว่ง 1630-1645 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC

ประเด็นต่างประเทศที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้:

1.) ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่คาดว่าจะ bottom out ใน 4Q22 หลังรัฐบาลจีนทยอยผ่อนคลายมาตรการ Zero-Covid และเร่งฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ นอกจากนี้จีนได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกระตุ้นภาคอสังหาฯ  KS มองหุ้นไทยที่อิงกับจีนเปิดประเทศจะได้ sentiment เชิงบวกจากเรื่องนี้เช่นกัน ได้แก่ SCGP, DOHOME, PSL, EKH, AOT, AAV, ERW, AWC, SNNP, TKN, ANAN, และ SIRI เป็นต้น

2.) ติดตามกลุ่ม OPEC+ ที่จะมีรายงานออกมาในช่วงสัปดาห์หน้า (13 ธ.ค.) หลังกลุ่ม OPEC มีมติปรับลดโควต้าการผลิตไป 2 ล้านบาร์เรลตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 และมีมติคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับดังกล่าวไปก่อน โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ. 2566 โดยนักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ KS มีความเห็นว่าหากตัวเลขการผลิตจริงของกลุ่ม OPEC+ ลดลงน้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน เราอาจจะเห็นแรงขายทำกำไรน้ำมันอีกรอบ แต่หากตัวเลขการลดลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างมีนัยสำคัญก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสั้น ทั้งนี้ที่ประชุมยังคงจับตาความไม่แน่นอนของตลาดที่เกิดจากการบังคับใช้เพดานราคาที่ $60/bbl ของกลุ่มประเทศ G7 ต่อการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียซึ่งต่ำกว่าระดับราคาปัจจุบันที่ประมาณ $70/bbl ขณะที่อุปสงค์น้ำมันดิบมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจีนผ่อนคลายนโยบาย Zero-COVID เรายังคงสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2566-67 ที่ $80 และ $75 ต่อบาร์เรล โดยมีหุ้นเด่นในระยะสั้นคือ BANPU, BCP และ TOP เรามองว่าสภาพอาการที่เริ่มหนาวเย็นขึ้นในซีกโลกเหนือ และโอกาสการกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตอีกครั้งของ Freeport LNG ในกลางเดือน ธ.ค. 2565 จะผลักดันราคาพลังงานอื่นๆ ให้เพิ่มขึ้นในระยะสั้น

ประเด็นในประเทศที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ หลักๆ คือ  นวค. KS คาดหุ้นเข้า SET50 รอบ 1H23 ได้แก่ BJC, COM7, DELTA, RATCH ส่วนหุ้นออก SET50 ได้แก่ BLA, IRPC, KCE, SAWAD ในส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ AAV, BJC, BYD, DELTA, JAS, NEX, THG ส่วนหุ้นออก SET100 ได้แก่ AEONTS, MAJOR, STEC, SUPER, SYNEX, TASCO, TTA เป็นต้น คาดตลาดจะประกาศเป็นทางการกลางเดือน ธ.ค. เราประเมินจะเห็น Sentiment บวกและอาจจะเห็นการเก็งกำไรในหุ้นที่จะถูกคัดเข้า SET50

กลยุทธการลงทุนสัปดาห์นี้

KS ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดแกว่งตัวในกรอบ 1620-1650 จุด โดยปัจจัยต่างประเทศไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยคือ รอการประชุมกลาง Fed และรายงานเงินเฟ้อเดือน กลางเดือน ธ.ค.  ส่วนปัจจัยบวกคือ การผ่อนคลายการเปิดเมืองของจีน ส่วนปัจจัยในประเทศในช่วงนี้ให้น้ำหนักการทำ Window dressing  และสัปดาห์นี้รอรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของไทยในเดือนพ.ย. รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อเงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้หลังจากเงินบาท/ดอลลาร์แข็งค่าแรงหลุด 35 บาทลงมา โดยรวมเรายังยังคงมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยตามเดิมประเมินจากปัจจัยแวดล้อมในช่วงที่เหลือของปียังไม่ได้มีปัจจัยลบอะไรใหม่ที่จะกดตลาดหุ้นลงแรง เราประเมินแนวต้าน 1666 จุด และ 1700 จุดในช่วงที่เหลือของปี

หุ้นแนะนำลงทุนในสัปดาห์นี้

1.) กลุ่ม Growth stock ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลัง Fed อาจจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยฯ แนะนำ JMT, KLINIQ

2.) หุ้น Defensive พื้นฐานดี, Downside จำกัด แนะนำ BEM, BAM GPSC, BGRIM

3.) กลุ่มนิคมได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต AMATA   4.) กลุ่มโรงแรม SHR,MINT

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกรอบ 1630-1645 จุด

Top pick :

GPSC (ราคาพื้นฐาน 81.5 บาท)

1.) ราคา Gas pool price แนวโน้มแกว่งตัวลง  และค่าเงินบาทที่แข็งค่าๆแตะ 35.0 บาท จากจุดสูงสุดของปีในช่วงกลางเดือน ต.ค. ที่ 38.0 บาทบวกต่อ GPSC

2.) คาดกำไรงวด 4Q22 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากค่า Ft ที่สูงขึ้น หลังการปรับขึ้นครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และคาดว่าโรงไฟฟ้าของ GPSC จะไม่มีการหยุดดำเนินงานนอกกำหนด

3.) ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวที่สำคัญ  GPSC ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับกลุ่ม ปตท. และ ธุรกิจที่ไม่ใช่พลังงาน ได้แก่ การผลิตแบตเตอรี่

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตามตัวเลข Jibun Service PMI ของญี่ปุ่น เดือน พ.ย.​ คาด 50 จุด (-6% MoM) ตัวเลข Caixin Service PMI ของจีนเดือน พ.ย.​ คาด 47 จุด (-2.9% MoM) ตัวเลข S&P Global Services PMI ของยุโรป เดือน พ.ย. คาด 48.6 จุด (ทรงตัว MoM) และตัวเลข ISM Non-Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ​ เดือน พ.ย.​ คาด 53.1 จุด (-2.4% MoM)
  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเดือน พ.ย.​ คาด +0.2% MoM และ +5.95% YoY การประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย คาดขึ้นดอกเบี้ย 25bps. เป็น 3.1% และตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ เดือน ต.ค.​ คาดขาดดุล -US$79.1bn
  • วันพุธ ติดตาม ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของจีน เดือน พ.ย.​ คาด -3.6% YoY และ -5.0% YoY การประชุมธนาคารกลางอินเดียคาดขึ้นดอกเบี้ย 25 bps. เป็น 6.15% การประชุมธนาคารกลางแคนาดาคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 50bps. เป็น 4.25% และตัวเลขปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
  • วันพฤหัสฯ ติดตามถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde และตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ​ รายสัปดาห์คาด 230K (vs. 225K สัปดาห์ก่อน)
  • วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือน พ.ย. คาด +0.2% MoM และ +2.1% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนเดือน พ.ย. คาด -1.6% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ​ เดือน พ.ย.​ คาด +0.2% MoM และ +7.2% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment สหรัฐฯเดือน ธ.ค. คาด 57 จุด ทรงตัว MoM และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อเฉลี่ย 5 ปีโดย U Michigan คาด 2.9% (vs. 3.0% เดือนก่อน)
- Advertisement -