บล.กรุงศรีฯ:
BANGKOK EXPRESSWAY AND METRO (BEM TB/ BEM.BK)
| กลุ่มอุตสาหกรรม | ขนส่งและโลจิสติกส์ |
| หุ้น | BEM |
| มูลค่าพื้นฐาน | 11.50 |
| คำแนะนำ | BUY |
สถิติการจราจรที่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วยืนยันมุมมองของเราว่าผลประกอบการของ BEM ใน 4Q22 จะดีกว่าใน 3Q22 เพราะปริมาณการจราจรของรถที่ใช้ทางด่วน และการเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินในช่วงสองเดือนแรกของ 4Q22 (ตุลาคม-พฤศจิกายน) สูงกว่าสถิติรายเดือนใน 3Q22 นอกจากนี้ การที่คณะรัฐมนตรีอนุญาตให้ รฟม. เซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มกับ BEM จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นราคาหุ้น
ปริมาณการจราจรเดือน พ.ย. ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้ง mom และ yoy
BEM รายงานว่าปริมาณรถใช้ทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเฉลี่ยรายวันในเดือนพฤศจิกายน 2022 ขยับเพิ่มขึ้นทั้งคู่ โดยเฉพาะจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินที่ขยับขึ้นมาอยู่ระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ COVID เริ่มระบาดในปี 2020 ที่ 354,000 เที่ยวต่อวัน (+4% mom และ +89% yoy) ในขณะที่ปริมาณรถใช้ทางด่วนในเดือนพฤศจิกายนก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 1.098 ล้านเที่ยวต่อวัน (+2% mom และ +10% yoy) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าปริมาณการจราจรทั้งทางด่วน และรถไฟฟ้าใต้ดินในเดือนธันวาคมน่าจะยังรักษาโมเมนตัมการเติบโตเอาไว้ได้ในเดือนธันวาคม
กำไรใน 4Q22 มีแนวโน้มจะดีกว่าใน 3Q22
การดำเนินงานของรถไฟฟ้าใต้ดินยังคงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องตามคาด หลังจากที่ธุรกิจนี้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของกำไรใน 3Q22 ซึ่งจากสถิติการจราจรที่บริษัทเปิดเผยออกมา เราคาดว่ารถไฟฟ้าใต้ดินจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของกำไร BEM ต่อไปใน 4Q22 และในปีหน้า เรายังคงประมาณการกำไรปี FY22F เอาไว้ที่ เอาไว้ที่ 2.6 พันล้านบาท (+167% yoy) เนื่องจากเราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะยังดำเนินต่อไปจาก 3Q22 ถึง 4Q22 จากปริมาณการจราจรที่ดีขึ้น ทั้งในส่วนของปริมาณรถใช้ทางด่วน และการเดินทางโดยรถไฟฟ้า นอกจากนี้ กำไรยังมีโอกาสจะดีขึ้นได้อีกตอลดปีหน้าเพราะทั้งปริมาณรถใช้ทางด่วน และการเดินทางโดยรถไฟฟ้ายังต่ำกว่าปี 2019 (ก่อน COVID ระบาด)
คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 11.50 บาท เราเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ เนื่องจาก i) เป็นหุ้น growth stock ที่คาดว่ากำไรจะโตถึง 31% CAGR ในปี 2023-24 นอกจากนี้ ยังจะมีโครงการที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มอีก อย่างเช่นรถไฟฟ้าสายสีส้ม และทางด่วนชั้นที่สอง (doubt-deck) ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ที่มาช่วยขับเคลื่อนทั้งกำไรและมูลค่าหุ้น
