รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีย่อตัว แต่ไม่มาก

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนีบวกตามคาม หุ้นใหญ่ดันตลาดนำโดยอิเล็กทรอนิคส์ DELTA HANA KCE คอมเมิร์ช CPALL BJC MAKRO รพ. BDMS BH และการเงิน SAWAD MTC KTC HENG ส่วนหุ้นบวกแรงได้แก่ BBIK CRANE BRR SGC KAMART THCOM ขณะที่หุ้นกดดันตลาด ได้แก่ PTTEP PTT AOT KBANK ONEE
  • วันนี้คาดดัชนีย่อตัว แต่ไม่มาก โดยผลการประชุมเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ตามคาด แต่มี Sentiment ลบจาก Dot plot ที่ส่งสัญญาณยังไม่ลดดอกเบี้ยลงเร็วเท่าตลาดคาด จึงอาจเกิดแรงขายล็อคกำไรหุ้นที่ถูกเก็งกำไรขึ้นมาก่อนหน้าบ้าง (แต่คงไม่ได้มากอย่างที่เคยประเมินว่าเงินประเด็นมหภาคจะมีผลกับตลาดไทยน้อยลง) โดยเฉพาะกลุ่มที่เล่นกับประเด็น “การชะลอการขึ้นดอกเบี้ย” อย่างกลุ่มการเงิน ส่วนกลุ่มเล่นตรงข้ามเงินเฟ้ออาจย่อตัวระยะสั้น แต่เทรนด์เงินเฟ้อขาลงยังชัดเจน ทำให้ในที่สุดจะรีบาวน์ (ไม่ใช่กลุ่มที่จะซึมลง)
  • อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่จังหวะตลาดเซทตัว เราแนะนำหุ้นกลุ่ม Defensive/Domestic plays ที่มี Catalysts เฉพาะตัวหนุนอยู่ อาทิโรงไฟฟ้า คอมเมิร์ช (โดยเฉพาะอิงการฟื้นตัวในต่างจังหวัด) ท่องเที่ยว ธนาคาร เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมองเป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้น Earnings Quality ดี หากย่อตัวตจามตลาด เช่น JWD AAV AH ฯลฯ

What to watch

  • ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ตามคาด และ Dot plot ออกมาที่ 5.1% ปีหน้า (Fed watch tool คาดที่ 4.75-5.0%) และคงที่ 4.25% ไปจนถึงปี 2024 ทำให้ตลาดตีความว่าเฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเร็วเหมือนที่เคยคาดกันก่อนหน้า
  • และประธานเฟดเองก็ยืนยันว่ายังไม่ลดดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อจะเหลือ +2% แต่ในทางตรงข้ามหากเกิด Recession เฟดก็พร้อมเปลี่ยนนโยบายทางการเงินอีกด้านเพื่อแก้ปัญหาเช่นกัน
  • ด้านธนาคารกลางยุโรปคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และ ธนาคารกลางอังกฤษขึ้น 0.5%
  • และติดตามสัญญาณ ว่าจีนจะคลายมาตรการควบคุมโควิด ได้เมื่อไร // ล่าสุดบลูมเบิร์กรายงานอ้างจากแหล่งข่าวภายในว่า จีนยังคงเดินหน้าจัดประชุมคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจส่วนกลาง แม้ก่อนหน้านี้ จะมีกระแสเลื่อนประชุมเพราะโควิด-19 พุ่ง

หุ้นแนะนำวันนี้

  • GULF  GUNKUL  WHAUP  หุ้นโรงไฟฟ้าเป็น Defensive ที่มี Catalysts บวกเฉพาะกลุ่มจากการประมูล PPA ใหม่ การปรับ Ft และธุรกิจใหม่ ลุยปั้มเงินคาร์บอนเครดิต
  • NEX รายงานพื้นฐานวันนี้ ชี้ให้เห็นว่าการ Turnaround เป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้ ปัจจัยหนุนรออีกเพียบ

Global Investing Brief: Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ตามคาด แต่เตือนยังขึ้นดอกเบี้ยไม่จบ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปิดลบ โดยดัชนี DJIA ลบ 0.4% S&P 500 ลบ 0.6% และ Nasdaq ลบ 0.8% แม้ผลการประชุม FOMC เป็นไปตามที่ตลาดคาด โดย Fed มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 4.25-4.50% ทั้งนี้ ตลาดปรับลงหลังจากที่ Fed เผยคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ว่า Fed จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปี 66 และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) จะแตะระดับ 5.1% สูงกว่าการประชุมครั้งก่อนหน้าที่ 5.0% อย่างไรก็ดี ในช่วงการแถลงของ Jerome Powell เผยว่าหากในปี 66 เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย Fed อาจพิจารณาใช้เครื่องมือการเงินเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว
  • Microsoft (MSFT) เผยว่าบริษัทกำลังขยายขอบเขตการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในทวีปแอฟริกา โดยกำลังทำงานร่วมกับบริษัทดาวเทียม Viasat เพื่อขยายการเข้าถึงในประเทศไนจีเรีย คองโก และอื่นๆ โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ 100 ล้านคนภายในปี 68 ซึ่งเรามองว่าเป็นปัจจัยบวกหนุนการใช้งานระบบ Cloud ของบริษัท อีกทั้งยังเป็นการขยายสู่ตลาดใหม่ ซึ่งแอฟริกามีประชากรจำนวนมากที่ราว 1,200 ล้านคน ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $296.10

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 0.4% นำโดย CSPC Pharma (1093) บวก 6.5% และ Sunny Optical (2382) บวก 4.7% หลังคณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีนยกเลิกการรายงานผู้ติดเชื้อโควิดที่ไม่แสดงอาการ โดยในวันที่ 13 ธ.ค. 65 จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่แสดงอาการเพียง 2,291 ราย ด้าน Morgan Stanley ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP จีนปี 66 ขึ้นเป็นขยายตัว 5.4%YoY จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 5.0%YoY หลังมองว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้จากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด
  • JD.com (9618) ประกาศจัดตั้งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมกับ China Mobile Hunan องค์กรด้านการสื่อสารของทางการจีน โดยทั้งสององค์กรจะร่วมกันพัฒนาเมืองอัจฉริยะและฟื้นฟูพื้นที่ชนบท นับเป็นสัญญาณดีต่อการจัดระเบียบที่ผ่อนคลายลงต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัทเทคฯ และหน่วยงานจากรัฐบาล ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ HKD317.92

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN ปิดบวก 0.3% เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฮ่องกง นำโดย GAS บวก 1.8% และ VCB บวก 0.8% หลัง VanEck Vietnam ETF มีมติเปลี่ยนดัชนีอ้างอิงเป็น MarketVector Vietnam Local ซึ่งจะลงทุนในหุ้นเวียดนามด้วยสัดส่วน 100% จากเดิมเป็นดัชนี MVIS Vietnam ที่มีสัดส่วนลงทุนหุ้นเวียดนาม 70% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 66 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการวันที่ 9 ธ.ค. 65 ที่ $414mn จะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเวียดนามอีก $107mn
  • FPT ที่มีสัดส่วน 7.6% ในดัชนี VN 30 และ 16.6% ในดัชนี VN Diamond ดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 และ FUEVFVND01 เผยงบ 11 เดือนแรกของปี รายได้โต 23%YoY สู่ VND39,249bn และกำไรโต 29%YoY สู่ VND5,067bn โดยธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์โต 23%YoY สู่ VND22,477bn หนุนจากความต้องการในญี่ปุ่น โดยเรายังคงมองบวกต่อ FPT หลังบริษัยวิจัย Gartner คาดว่าการใช้จ่ายในการธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์จะเพิ่มขึ้น 8%YoY ในปี 65 และ 11%YoY ในปี 66

Highlight

Visa (V) เตรียมลงทุน $1bn ในช่วง 5 ปีข้างหน้าในแอฟริกา หลังมองว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการชำระเงินแบบดิจิทัลในประเทศเกิดใหม่ โดยบริษัทที่ปรึกษา McKinsey เผยว่าตลาดการชำระเงินดิจิทัลในแอฟริกามีแนวโน้มโตเฉลี่ยปีละ 20% ต่อปี และคาดว่าจะแตะระดับ $40bn ในปี 68 ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $248.03

Greed & FearBarometer: มาตรวัดความโลภและความกลัว

Overview:

Sentiment Indicator ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า และยังอยู่ในโซน Greed ที่ระดับ 58 คะแนน สัญญาณที่ดีขึ้น ได้แก่ ดัชนี Bull-to-Bear ที่ปรับตัวขึ้นจาก 37% เป็น 42% และดัชนี Volume Index ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามดัชนี Momentum Strength ได้ปรับตัวลงจาก 11.4 จุดเป็น 7.9 จุด

มาตรวัดความโลภและความกลัว (Greed & Fear Barometer):

จิตวิทยาในตลาดหุ้นมักถูกผลักดันด้วยสองอารมณ์หลัก คือ ความโลภและความกลัว โดยเมื่อยิ่งมีอารมณ์โลภมาก (Extreme Greed) หรือ อารมณ์กลัวมาก (Extreme Fear) ขึ้นเท่าใด การตัดสินใจด้วยเหตุผลก็มักจะลดลงไปเท่านั้น เช่น เมื่อเกิด Extreme Greed นักลงทุนก็อาจจะไล่ซื้อหุ้นมากจนเกินไปโดยไม่สนใจราคา ในขณะที่เวลาเกิด Extreme Fear ก็จะขายหุ้นมากเกินไปด้วยความตื่นตระหนก ดังนั้นหากอารมณ์ตลาดยิ่งเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเท่าใด โอกาสที่ดัชนีจะสวิงกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามก็มากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุที่ภาวะ extreme นั้น มักทำให้เกิดการซื้อหรือขายมากเกินไป (Overbought/ Oversold)
BLS Greed & Fear Barometer คำนวณมาจากเครื่องชี้วัดดังต่อไปนี้ 1) Bull-to-Bear 2) Momentum Strength 3) Yield Spread (Bond vs Equity) 4) Market Volatility 5) Market Breadth และ 6) Volume Index

- Advertisement -