ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

บวกต่อกรอบแคบๆ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ แกว่งตัวขึ้นต่อ แต่ไม่น่าบวกแรง… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นปิดบวกปานกลาง 0.46% (ตามคาด) หนุนโดยเงินเพื่อผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด และดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนค่าลง ผลักดันฟันด์โฟลว์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นโลก เรามองเป็นกลางๆ i) ที่ประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อคืนนี้ ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.50% ตามที่ฝ่ายวิจัยฯ และ consensus คาดการณ์ และกรรมการเฟดปรับมุมมองต่อดอกเบี้ย (dot-plot projections) ว่าดอกเบี้ยเฟดจะขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 5.10% ในปี 2566 ก่อนที่ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะลดลงปีละ 1.00% ในปี 2567 และ 2568 ทั้งนี้ระดับดอกเบี้ยสูงสุดที่ 5.10% นั้น เท่ากับสิ่งที่ตลาดรับรู้มาระยะหนึ่งแล้ว ผ่านการคาดการณ์ของ Fed Fund Futures ซึ่งทำนายดอกเบี้ยเฟดสูงสุดที่ 5.00-5.25% เราจึงมองประเด็นนี้ไม่เป็นลบต่อตลาด ii) เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ปี 2565 เป็น 0.50% (เดิม 0.20%) แต่ปรับลดปี 2566 สู่ 0.50% (เดิม 1.20%) ซึ่งเป็นไปตามมุมมองของฝ่ายวิจัยฯ ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีหน้าจะโตน้อยมากแต่ไม่ติดลบ… ทั้งนี้ตลาดการเงินจะติดตามผลการประชุม ธ.กลางอีก 2 แห่ง ในวันนี้ ได้แก่ ECB และ BoE ซึ่งทั้งสองแห่งมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% เช่นกัน หลังจากเงินเฟ้อมีสัญญาณของการชะลอตัวลง ทั้งนี้ตลาดพันธบัตรและอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก หลังผลประชุมเฟด ทางเราจึงมองว่าฟันด์โฟลว์น่าจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 รวมทั้งในไตรมาส 1/2566 ซึ่งเป็นมุมมองที่เรากล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร WHA*, GLOBAL, BDMS*

  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.90 บาท / แนวต้าน 3.98 บาท กรณี Break ผ่าน กรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.06 – 4.24 บาท (Stop loss 3.78 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น จากการกลับมาเปิดประเทศและนโยบายภาครัฐฯ โดยเฉพาะมาตรการสนับสนุนการลงทุนรถอีวี และการฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบีย ที่คาดหนุนการลงทุนในพื้นที่ EEC ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปี 2566 ยังโตต่อ +16% YoY เป็น 3.9 … พันล้านบาท 3) ประเมิน Sentiment บวกจากการผ่านคุณสมบัติยื่นขายไฟพลังงานทดแทนรอบนี้ คาดประกาศผลภายใน 1Q66 4) Forward PE 15.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตที่ราว 18 เท่า
  • GLOBAL (เป้าพื้นฐาน 24.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 19.8 บาท / แนวต้าน 20.2 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 20.8 บาท (Stop loss 19.5 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และของตกแต่งบ้านอย่าง ILM, HMPRO*, DOHOME* โดยเราประเมินมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับประมาณการฯ ขึ้น หลังจากที่กำไร 9M65 คิดเป็น +90% ของประมาณการฯทั้งปีเฉลี่ยใน IAA Consensus ขณะที่คาดยอดขายของตกแต่งบ้านจะโตเด่นใน 4Q – 1Q จากยอดโอนบ้านและคอนโดฯ ที่เร่งตัวขึ้นใน 2H65 รวมถึงการ Renovate ต้อนรับการท่องเที่ยวฟื้นตัว 3) Forward PE บนประมาณการฯปี 2566 เท่ากับ 25 เท่า คิดเป็นราว -0.75 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 28 เท่า)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 27.75 บาท / แนวต้าน 29.0 – 30.25 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 32.0 บาท (Stop loss 27.0 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐาน ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานยังได้ Sentiment บวก จากการเปิดประเทศ (ผู้ป่วยต่างชาติ) รวมถึงผู้ป่วยชาวไทยที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยฯยังคงคาดกำไรปีหน้าเติบโตต่อ +7% YoY เป็น 1.37 หมื่นล้านบาท (กำไรฟื้นขึ้นสูงกว่าตอนก่อนวิกฤตโควิด 19) 3) Forward PE ปี 2566 +/- 32.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อยหลัง 5 ปีที่ราว 35 เท่า

หุ้นมีข่าว

(-) PTT* อ่วม! ไม่จบแค่ค่าไฟ เจอ NGV อีก 2.7 พันล้าน จับตาบอร์ดสนองรัฐวันนี้ ผู้ถือหุ้นทั้งขาธรรมาภิบาล (ข่าวหุ้น) ควันหลงกองทุนน้ำมัน 3 พันล้านบาท วันนี้บอร์ดปตท.ชี้ขาดเปิดทางรัฐล้วงเพิ่มอีก 6 พันล้านบาท ใช้คุ้มค่าไฟฟ้า แถมยังเจอตรึงราคา NGV อีก 2.7 พันล้านบาท ด้านหลักการไม่จำเป็นต้องผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น ส่วนธรรมาภิบาลเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นต้องตั้งคำถามเอง

(-) STARK คว่ำดีลซื้อ LEONI เงินเพิ่มทุนค้างเติ่ง 5.6 พันล. (ข่าวหุ้น) ซึ่งเจ้าของ LEONI บิดตัวเลข EBITDA ผู้บริหาร STARK บินด่วนไปดูไบเจรจาล่มไม่เป็นท่า ด้าน 12 กองทุนเฝ้าจับตามองเงินเพิ่มทุนก้อนใหญ่ 5.6 พันล้านบาท สตาร์คเอาไปทำอะไร หลังพบมีกระแสอาจนำไปใช้หนี้ “1 ปี” แทนปิดดีล M&A

(+) CPF* ไฟเขียวควัก 5 พันล. ลุยซื้อหุ้นคืน 200 ล.หุ้น (ทันหุ้น) CPF* บอร์ดไฟเขียวทุ่มงบ 5 พันล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น ผ่านกระดานตลาดหลักทรัพย์ หลังราคาหุ้นในกระดานต่ำกว่าบุ๊กแวลู เริ่ม 19 ธันวาคม 2565 – 18 มิถุนายน 2566 พร้อมตั้ง 2 บริษัทย่อยใหม่ โบรกสองปี 2566 แนวโน้มกำไรในครึ่งปีแรกยังได้ผลบวกจากราคาเนื้อสัตว์ที่ทรงตัวในระดับสูง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาพื้นฐานเป็น 29 บาท

(+) TSE ผ่านเกณฑ์ 420 เมก ลุยปั้มคาร์บอนเครดิต (ทันหุ้น) TSE ลุยหนักประมูลไฟฟ้าทดแทน ผ่านคุณสมบัติสูงสุดถึง 50 โครงการ แบ่งเป็น SPP จำนวน 8 โครงการ และ VSPP จำนวน 42 โครงการ รวม 420 เมกะวัตต์ มั่นใจศักยภาพพร้อมเงินทุน พร้อมเปิดทางพันธมิตรต่อยอด ลุ้นประกาศผล 22 มีนาคม ปีหน้า ปัมคาร์บอนเครดิตทำเงินปีหน้า

(+) โกดังไฟฟ้าดอทคอม หั่นราคาช้อปทั้งเว็บ ตั้งแต่วันนี้-31 ม.ค. 66 (ข่าวหุ้น) “โกดังไฟฟ้าดอทคอม มาร์เก็ตเพลสอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า และโซลาร์ภายใต้ความร่วมมือของ GUNKUL* และ SCB 10X เตรียมฉลองปลายปีต้อนรับปีใหม่ หั่นราคาทั้งเว็บ ผ่านแคมเปญ Shock Deals with GODUNGFAIFAA.com SHOCK DEALS อุปกรณ์ไฟฟ้า-โซลาร์ ช้อปได้ทุกที่ทุกเวลาตั้งแต่วันนี้-31 ม.ค. 66

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 65 บาท / แนวต้าน 68 – 69 บาท (Trailing stop 63.75 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) แนวรับ 14.7 บาท / แนวต้าน 15.1 – 15.4 บาท (Trailing stop 14.5 บาท)
  • INTUCH* (เป้า IAA Consensus 81.7 บาท) แนวรับ 75.0 บาท / แนวต้าน 76.0 – 78.0 บาท (Stop loss 74.0 บาท)
  • M* (เป้าพื้นฐาน 68.75 บาท) แนวรับ 57.0 บาท / แนวต้าน 58.5 – 60.0 บาท (Stop loss 56.5 บาท)
  • SPRC* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนวรับ 11.4 บาท / แนวต้าน 11.9 – 12.2 บาท (Stop loss 11.4 บาท)
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 4.90 บาท) แนวรับ 3.96 บาท / แนวต้าน 4.10 – 4.24 บาท (Stop loss 3.92 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 69.75 บาท / แนวต้าน 71.75 – 73.5 บาท (Stop loss 68.75 บาท)
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 53.25 บาท / แนวต้าน 54.5 – 56 บาท (Stop loss 52.75 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.8 บาท) แนวรับ 34.5 บาท / แนวต้าน 36.0 – 37.5 บาท (Stop loss 33.75 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 12.3 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.2 – 11.6 บาท (Stop loss 10.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มค้าปลีก น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรรวมของบริษัทฯ ในหมวด home improvement ของกลุ่ม Commerce (HMPRO*, GLOBAL, DOHOME*) ใน 4Q65 จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล ในขณะเดียวกัน เราคาดว่า DOHOME* จะเป็นเพียงบริษัทเดียวที่กำไรลดลง YoY เนื่องจากราคาเหล็กลดลง ยังให้น้ำหนักหุ้นกลุ่ม commerce ที่ Overweight … อ่านรายละเอียด Preview งบ 4Q65 หุ้นรายตัวในบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม
- Advertisement -