KS Daily View 16.12.2022 > ECB/ BOE ขึ้นดอกเบี้ย 50 bps กดดันตลาดหุ้นโลกพักฐานต่อ SET คาดแกว่งตัวลง 1610-1625 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ RATCH

ประเด็นสำคัญเมื่อวาน :

ต่างประเทศ: หลักๆ คือ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหัวเรือใหญ่ออกมาชะลอตัวกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก  เริ่มจาก

1.) เอเซียเมื่อวานจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาชะลอ ผลจาก Covid อาทิ  ตัวเลข Retail sales เดือน พ.ย. คาด -5.9% YoY (เทียบ -0.5% YoY ในเดือนก่อนหน้า), ตัวเลข Fixed asset investment  พ.ย.  5.3%YoY ชะลอจาก 5.8% ในเดือนก่อนหน้า แต่ KS มองว่าจะเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นช่วง ธ.ค. และชัดเจนปี 2023 จากการผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ

2.) สหรัฐเมื่อคืนรายงานยอดค้าปลีก เดือน พ.ย. -0.6%MoM ลดลงมากที่สุดในรอบ 11 เดือน และลดมากว่าตลาดคาด -0.1%MoM  โดยรวมตลาดเลือกจะตอบรับข่าวลบเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจมากกว่า

3.) ธนาคารกลางอังกฤษ(BoE) และ ธนาคารกลางยุโรป(ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด และส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ   โดยรวมกดดันให้ดัชนี Dow Jones -2.25%DoD, S&P500 -2.49%, NASDAQ -3.23% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับลงทุก Sector หลักๆคือ กลุ่ม Communication Services -3.84%, IT -3.78%, Materials -3.02% ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ลงน้อยกว่าค่าเฉลี่ยคือ Utilities -1.27% และ Energy -0.53%

ในประเทศ: ตลาดหุ้นไทยลงตามต่างประเทศ  โดย SET Index เมื่อวานปิด 1620.28 จุด(-0.8%DoD) นรับลงเกือบทุก Sector โดยหุ้นที่ปรับลงหลักๆ นำโดย  DTCENT-13.3%, SGC-8.5%,ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นแรง DEMCO +5.98%, BBIK+5.75%, BGRIM+3.3%, GPSC+2.84% ประเด็นอื่นๆ เมื่อวาน ม.หอการค้าไทยคาด GDP ไทย ปี 66 โต 3.6%YoYและปี 2565 ปรับเพิ่มคาดการณ์เป็น 3.3% จาก 3.1%(VS. KBANK คาดโต 3.7%YoY) เรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย และ Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าไทย

ประเด็นที่ต้องติดตาม:  หลังจากผ่านการประชุมธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเมินจากปัจจัยแวดล้อมช่วงครึ่งเดือนหลัง ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่ต้องติดตามเป็นพิเศษ เชื่อว่าตลาดคาดจะเลือกกลับมาติดตาม

1.) ตัวเลขเศรษฐกิจ อาทิ วันนี้ S&P Global Service PMI ของฝั่งยุโรปและสหรัฐ  ส่วนสัปดาห์หน้ากลางสัปดาห์ให้น้ำหนักตัวเลขบ้านสหรัฐ อาทิ  จำนวนใบอนุญาตก่อสร้างสหรัฐ (พ.ย.) ตลาดคาด 1.47 ล้านหลัง ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (พ.ย.)  ตลาดคาด 4.2 ล้านหลัง และ CB Consumer Confidence) (ธ.ค.) ตลาดคาด 100.0 จุด

2.) หุ้นเข้า SET50 รอบ 1H23 นวค. KS คาดได้แก่ BJC, COM7, DELTA, RATCH ส่วนหุ้นออก SET50 ได้แก่ BLA, IRPC, KCE, SAWAD ในส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ AAV, BJC, BYD, DELTA, JAS, NEX, THG ส่วนหุ้นออก SET100 ได้แก่ AEONTS, MAJOR, STEC, SUPER, SYNEX, TASCO, TTA เป็นต้น คาดตลาดจะประกาศเป็นทางการกลางเดือน ธ.ค. ทั้งนี้หุ้นที่มีโอกาสถูกเลื่อนขึ้น 1 ลำดับหาก TRUE-DTAC รวมกันเป็นบริษัทใหม่ใน 1Q23 คือ SAWAD สำหรับ SET50 และ TASCO สำหรับ SET100

Theme หุ้นแนะนำช่วงนี้

เราประเมินวันนี้กลุ่มที่จะแข็งกว่าตลาดในภาวะที่ตลาดพักฐานคือ

1.) กลุ่ม Defensive อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ  BGRIM, GPSC  หลังจากก่อนหน้า กกพ. ประกาศ Ft งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.66   ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มที่ผู้ใช้ไฟประเภทบ้านพักอาศัยค่า Ft ขยับขึ้นไปที่ 190.44 สตางค์/หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.69 บาทต่อหน่วย (สูงกว่าสมมติฐานของ KS ที่คาดทั้งปี 2023 ที่  5.2 บาท) หรือ Upside ราว 50 สตางค์ เรามองบวกต่อ BGRIM: Ft เพิ่มขึ้น 1 สตางค์ earnings เพิ่มขึ้น 25ลบ./ปี   GPSC: Ft เพิ่มขึ้น 1 สตางค์ >>> earnings เพิ่มขึ้น 63ลบ./ปี

2.) กลุ่ม REITs/กองทุน Infra อาทิ ALLY, WHART และ DIF 3.) กลุ่มโรงพยาบาล อาทิ EKH

3.) หุ้นปันผลสูง เราแนะนำให้ทยอยสะสมในเดือน ธ.ค. และขายในช่วงปลาย 1Q23  โดยจากสถิติ SETHD Index ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 7.0% เทียบกับ SET Index ที่ 4.25% ในไตรมาส 1 ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา   เราแนะนำหุ้นที่จ่ายเงินปันผลมากกว่า 4% และหุ้นที่มีupside มากกว่า 10% ต่อราคาเป้าหมายของเรา หุ้นปันผลเด่นเราแนะนำ  AP, KTB, QH, ORI, THANI, KKP, LH, BBL, EGCO, RATCH

4.) หุ้นที่ลิ้งกับจีน (เช่น SCGP, DOHOME, PSL, MINT, ERW, SHR, AWC, CPN, CRC, AAV, AOT, EKH, TKN, SNNP , AU, SPA, SIRI, ANAN) จากแรงหนุน ล่าสุดรัฐบาลจีนตั้งเป้าปี 2023 เศรษฐกิจจะโต 5%YoY ประเมินว่าจะมีโอกาสใช้นโยบายการเงินและการคลังสนับสนุน

กลุ่มที่แนะนำชะลอลงทุนวันนี้ คือ กลุ่ม Global play อาทิ กลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์, กลุ่ม Tech, กลุ่มปิโตรเคมี ตามภาพใหญ่ในต่างประเทศ

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกรอบ 1620-1640 จุด หุ้นแนะนำ RATCH

Top pick :  RATCH (ราคาพื้นฐาน 45.0 บาท)

1.) คาดหุ้นเข้า SET50 รอบ 1H23 ได้แก่ RATCH

2.) งบ 4Q จะได้ประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าจะบวกต่อ Bottom line 4.8%

3.) งบดุลที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราหนี้สินต่อเงินทุน (D/E ratio) สุทธิ 0.62 เท่า ณ สิ้นปี 2565 (ซึ่งลดลงหลังจากเพิ่มทุน) สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายระยะยาวในการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 10,000 MW ภายในปี 2568

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI ของญี่ปุ่น เดือน ธ.ค. คาด 49.6 จุด (+1.2% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของเยอรมัน เดือน ธ.ค. คาด 46.2 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacutring PMI ของยูโรโซน เดือน ธ.ค. คาด 47.1 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของยูโรโซน เดือน ธ.ค. คาด 48.5 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด 47.7 จุด (ทรงตัว MoM) และตัวเลข S&P Global Service PMI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด 46.5 จุด (+0.6% MoM)
- Advertisement -