ตลาดมีแนวโน้ม Sideway มอง Santa Rally อาจไม่มา

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,619.01 จุด ลดลง 1.27 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 66,299.75 ล้านบาท ตอบรับความกังวลการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ

แนวโน้มตลาดวันนี้… ตลาดปรับตัวอิงทางลงมากกว่า ขานรับทั่วโลกกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังเฟด และธนาคารกลางหลายแห่งส่งสัญญาณว่าจะคุมเข้มนโยบายการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะเฟดที่มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ในปีหน้า ทั้งนี้ตลาด คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปีหน้า และอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4.8% ในปีหน้า ก่อนลดลงสู่ ราว 4.4% ภายในสิ้นปี 2566 ขณะที่ปรากฏการณ์ “ซานต้า แรลลี่” (Santa Rally) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นของตลาดในช่วงสิ้นปีนี้ คาดว่าจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากกธนาคารกลางส่วนใหญ่ของโลกได้ทำการคุมเข้มนโยบายการเงิน ทั้งนี้ติดตามการประกาศหุ้นเข้าออก SET50/100 และการประชุม ครม. ที่อาจเห็นมาตรการของขวัญปีใหม่ในวันพรุ่งนี้ เป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก สัปดาห์นี้

ติดตาม … Core PCE พ.ย. สหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 4.7%YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ +5.0%YoY และตัวเลขส่งออกไทยในช่วง 22-30 ธ.ค. ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจคู่ค้ารายใหญ่อย่างจีนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ ZCV

กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index มีแนวโน้ม sideway หากพอร์ทว่างแนะนำเพียง Trading ระยะสั้นๆ ในกรอบ 1610/1634 และรอซื้อเมื่ออ่อนตัวโดย Selective Buy ในหุ้นที่อิงกับปัจจัยบวกภายในประเทศ เช่นกลุ่มค้าปลีก CPALL M CBG COM7 JMART ท่องเที่ยว SHR MINT AAV ธนาคาร BBL KBANK TTB สื่อสาร ADVANC DTAC

คาะไป คุยไป… TU

  • แนวโน้ม 4Q65 ประเมินกำไรจะยังทรงตัว QoQ จากผลกระทบการขึ้นค่าแรง และผลประกอบการของ Red Lobster ที่อ่อนแอต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะดีขึ้น YoY ตามการตั้งราคาขายที่สูงขึ้น และปัญหาเรื่องต้นทุนค่าขนส่งที่ ลดลง
  • TU ประกาศซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 4.19% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในวงเงิน ไม่เกิน 3 พันล้านบาท กำหนดระยะเวลาภายใน 6 เดือน ตั้งแต่ 3 ม.ค. – 30 มิ.ย.66 เนื่องจากราคาปัจจุบัน -14.4%YTD ขณะที่ P/E ลงมาอยู่ที่ 9.93 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 15 เท่า

Global Markets

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน จากความวิตกเพิ่มขึ้นว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้นจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบละปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ มากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน จากการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกของบรรดาธนาคารกลางรายใหญ่นั้น ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลง จากความวิตกว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งอาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง

(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวก หลังเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ประเด็นเด่นวันนี้

  • ADB เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียประจำปี 2565 โดยปรับเพิ่มคาดการณ์การ GDP 65 ของเวียดนาม ขึ้นสู่ระดับ 7.5% จากเดิมขยายตัว 6.5% อย่างไรก็ดี ADB ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเวียดนามในปี 2566 ลงสู่ระดับ 6.3% จากระดับ 6.7% แม้ว่าการค้าจะยังคงขยายตัว แต่สัญญาณบ่งชี้ว่าความต้องการสินค้าส่งออกจากเวียดนามมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะความต้องการจากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเวียดนาม ส่วนเศรษฐกิจไทยได้ปรับ GDP ปี 65 ขึ้นเป็น 3.2% จากเดิมที่ 2.9% แต่ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การ GDP ไทยในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.0% จากระดับ 4.2% ประเมินเป็นบวกต่อกลุ่ม Domestic consumption และ Re-opening
  • ผู้ว่าฯ ธปท. การันตีศก.ไทยปีหน้าไปต่อ แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง การส่งออกไทยถูกผลกระทบเติบโตเหลือ 1% แต่จะถูกฟื้นด้วยการบริโภคภายในประเทศ และการท่องเที่ยวที่ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวปี 65 อยู่ที่ 10 ล้านคน และปี 66 ราว 20 ล้านคน โดยเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจประเทศอื่นที่มีความเสี่ยงมาจากหลากหลายปัจจัย และตลาดการเงินโลกจะมีความผันผวน ประเมินเป็นบวกต่อกลุ่ม Domestic consumption และ Re-opening
  • IEA คาดการบริโภคถ่านหินทั่วโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ จากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และปัญหาติดขัดด้านอุปทาน ทำให้บางประเทศหันมาใช้ถ่านหินที่มีราคาถูกกว่าในปีนี้ และคาดการณ์การบริโภคถ่านหินจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 8 พันล้าน ต้นจนถึงปี 2568 ทั้งนี้ อินเดียมีแนวโน้มที่จะเป็นประเทศที่มีความต้องการถ่านหิน เพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 7% ตามมาด้วยสหภาพยุโรป (EU) ที่ 6% และจีนที่ 0.4% มองเป็นบวกต่อกลุ่มถ่านหินเช่น BANPU AGE LANNA
- Advertisement -