บล.เคจีไอ:
Star Petroleum Refining ผลประกอบการ 2Q64: กำไรต่ำกว่า consensus
Event
กำไรสุทธิของ SPRC ใน 2Q64 อยู่ที่ 773 ล้านบาท (-32%YoY, -61%QoQ) ต่ำกว่า Bloomberg consensus 21% และต่ำกว่าประมาณการของเรา 6% โดยคิดเป็นส่วนต่างเพียง 50 ล้านบาทเนื่องจากกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันต่ำกว่าคาดมาอยู่ที่ 17 ล้านบาท (เราใช้สมมติฐานที่ 80 ล้านบาท) ทั้งนี้บริษัท ประกาศงดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 1H64 ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้อยู่แล้ว โดยกำไรสุทธิงวด 1H64 คิดเป็น 68% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
Impact
กำไรสุทธิใน 2Q64 ลดลง 32%YoY และ 61%QoQ
กำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะ base GRM ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 47% เหลือ US$2.7/bbl จาก US$ 4.7/bbl ใน 2Q63 ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงหลังจากที่ต้นทุน Murban crude premium ใน 2Q63 ลดลงมาติดลบที่ -US$4.7/bbl โดย 80% ของน้ำมันดิบที่ SPRC ใช้กลั่นมาจากตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกันกำไรที่ลดลงไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะกำไรจากสต็อกน้ำมันลดลง 42%QoQ เหลือ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบดีดตัวขึ้นจาก US$64/bbl ในเดือนมีนาคมเป็น US$72/bbl ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าใน 1Q64
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ
i) base GRM ของ SPRC ลดลง 25% QoQ เหลือ US$2.7/bbl เนื่องจากต้นทุน Murban crude premium เพิ่มขึ้น QoQ จาก US$0.7/bbl เป็น US$1.3/bbl แม้ว่า spread ของน้ำมันเบนซิน, น้ำมันเครื่องบิน และน้ำมันดีเซลใน 2Q64 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น US$9.9/bbl, US$4.5/bbl และ US$5.3/bbl ตามลำดับ
ii) อัตราการกลั่นลดลงเล็กน้อย 1% QoQ เหลือ 135KBD เพราะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่ระบาดหนักในประเทศไทยตั้งแต่เดือนเมษายน
iii) บริษัทบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันลดลง 42% QoQ เหลือ 1.5 พันล้านบาท หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบฟื้นตัวขึ้น US$8/bbl ใน 2Q64 ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าใน 1Q64
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 10.90 บาท อิงจาก EV / EBITDA ที่ 6.0x เราคาดว่า base CRM ของโรงกลั่นในประเทศไทยผ่านจุดต่ำสุดในรอบปีนี้ไปแล้วใน 2Q64 นอกจากนี้เรายังคงเลือก SPRC เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากเรามองบวกกับแนวโน้มตลาดโรงกลั่นใน 2H64
Risks
ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบและ GRM