Our View? “ความหวังที่มาพร้อมความเสี่ยง”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,635 / 1,630 และแนวต้านที่บริเวณ 1,650 / 1,655 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศ จากความกังวลการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปและเร็วกว่าคาดของจีน อาจส่งผลให้ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง จากการที่จีนเป็นหนึ่งในผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ของโลก คาดจะส่งผลให้ทิศทางเงินเฟ้อโลกยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป และอาจส่งผลให้ธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด เป็นปัจจัยกระตุ้นแรงขายท่ากำไรได้บ้างในระยะสั้น
อย่างไรก็ดี เราคาดตลาดหุ้นไทยคาดจะสามารถ Outperform ตลาดอื่นๆ ได้ จากการที่ไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยข้อมูลจาก Trip.com Group ระบุว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 2 ของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 1 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกิน 25 ล้านคนได้ มองเป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA,CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS และ TKN อย่างไรก็ตาม เราคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีน คาดอาจส่งผลให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก คาดชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามาเพื่อใช้บริการฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพมากขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ร.พ. BH, BDMS, BCH, PR9, CHG และ EKH
สำหรับปัจจัยในประเทศ ยังมองการเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของปี คาดปริมาณการซื้อขายของตลาดยังคงเบาบางอย่างนัยยะจากการเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น ขณะที่การนำ DELTA เข้าคำนวณในดัชนี SET50 อีกครั้ง คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง สวนทางทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ถือเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้า อีกทั้งแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 66 มองเป็นปัจจัยบวกต่อการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าเพิ่มเติม เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย กระตุ้น Fund Flow ไหลเข้าได้ต่อในช่วงปีหน้า รวมทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ KTB) จากการที่สมาคมธนาคารไทยแจ้งธนาคารพาณิชย์เตรียมทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.40% ต่อปี หลัง ธปท. ประกาศสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) กลับเข้าสู่อัตรา 0.46% ต่อปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 66 เป็นต้นไป จากระดับปัจจุบันที่จ่ายเข้ากองทุนที่ระดับ 0.23% ต่อปี คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “BH”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 210.00 / 206.00 Target 226.00 / 240.00 stop <203.00