หุ้นกลุ่ม Domestic เร่ิมฟื้น
- เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ถือว่าดีกว่าที่เราประเมิน นำโดยหุ้นกลุ่ม Domestic Play และ Reopening Play ซึ่งเคยปรับตัวลงมากในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มธนาคาร, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, กลุ่มอสังหาฯ ,กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มขนส่ง เป็นต้น
- แม้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันท่ี 4 แต่ยอดขายสุทธิชะลอตัวค่อนข้างชัดเจน นอกจากนี้ สัญญาณจากตลาด TFEX เป็นบวก สะท้อนจากต่างชาติ มีสถานะ Long สุทธิมากถึง 3.1 หมื่นสัญญาเมื่อวานนี้
- ประเด็นลบ คือ การปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ ทั้ง Brent และ NYMEX ราว 2% เนื่องจากความกังวลว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศผู้ใช้น้ำมันหลักของโลก คือ จีน เริ่มชะลอลง สะท้อนจากยอดนำเข้าและส่งออกสินค้าเดือน ก.ค.ที่เพิ่งประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด ในขณะท่ีสถานการณ์โรค COVID-19 ในจีน ที่เริ่มพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ การแข็งค่าของ US Dollar เป็นลบต่อราคาน้ำมันดิบด้วยเช่นกัน
- เราเชื่อว่าความยั่งยืนของการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศ หากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มขึ้นสู่จุด Peak แล้วค่อย ๆ ลดระดับลงในกรอบ เวลา 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า น่าจะช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนภาพระยะสั้นเราประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,530-1,550 จุด
- ปัจจัยติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯ วันที่ 11 ส.ค. และเช้าวันที่ 12 ส.ค. ตามเวลาประเทศ MSCI จะประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออก ดัชนีรอบใหม่
Yuanta Picks
เก็งกําไร KBANK
ราคาปิด 108.50 บาท แนวต้านทางเทคนิค 112.00 บาท
สถานการณ์ COVID ในประเทศที่เริ่มทรงตัว คาดว่าจะส่งผลให้เกิดแรงซื้อคืนหุ้นที่ปรับตัวลงมามากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เช่น กลุ่มธนาคาร นอกจากนั้น กลุ่มธนาคารจะเร่ิมประกาศเงินปันผล 1H64 ในช่วงครึ่งหลังของเดือน ส.ค. ส่งผลให้มีโอกาสเกิด Short Covering
ภาพทางเทคนิค แนวต้านที่ 110.00 บาท และ 112.00 บาท แนวรับบริเวณ 105.00-106.00 บาท
เก็งกําไร INOX
ราคาปิด 1.23 บาท แนวต้านทางเทคนิค 1.35 บาท
คาดกาไร 2Q64 ที่ 100-120 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน -65 ล้านบาทใน 2Q63 ได้แรงหนุนจากความต้องการสแตนเลสเพื่อการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ช้ินส่วนยานยนต์ ฯลฯ ที่เร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะภาคส่งออกที่มีสัดส่วน 38% ของรายได้รวม สามารถทำกำไรได้ดีกว่าคาด จากเงินบาทที่อ่อนค่า 2.5% QoQ และ 3.7% YoY
แนวโน้ม 2H64 คาดกำไรเติบโตทั้ง HoH และ YoY จากการเพิ่มกำลังการผลิต และการปรับกลยุทธ์ของ POSCO เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นฐานการส่งออก ขณะที่เงินสดในมือยังสูงถึง 0.32 บาท/หุ้น และ PBV ต่ำเพียง 1.1 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มโลหะท่ี 1.5 เท่า
เก็งกําไร III
ราคาปิด 12.50 บาท แนวต้านทางเทคนิค 13.00 บาท
ราคาหุ้นมีปัจจัยบวก คือ คาดว่ากำไรสุทธิ 2Q64 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากการขยายตัวของธุรกิจ Logistic และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ได้อานิสงค์จากค่าระวางเรือขนส่งทางทะเลที่ปรับตัวขึ้น
เราคาดว่าหลังรายงานงบ 2Q64 มีโอกาสที่ Consensus จะปรับเพิ่้มกำไรปี 2564 ขึ้นสู่ระดับ 300 ลบ. +/- เทียบเท่า EPS ท่ี 0.49 บาท ดังนั้น ราคาปัจจุบันเทียบเท่า PER ราว 24 เท่า ต่ำกว่า JWD ท่ี 37 เท่า จึงมี Valuation Gap ท่ีน่าสนใจเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมกลุ่ม
เก็งกําไร BAM
ราคาปิด 17.20 บาท แนวต้านทางเทคนิค 17.70 บาท
ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 17.70 บาท แนวรับ 17.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 16.60 บาท
คาดกำไรสุทธิ 2Q64 ท่ี 728 ลบ. เติบโต +437% YoY และ +195% QoQ จากฐานกำไรท่ีต่ำในปีก่อน และจะรับรู้รายได้จากการขาย NPA ก้อนใหญ่ที่ได้ขายไปแล้ว และแบ่งรับชำระจำนวน 450 ลบ.ในไตรมาสนี้
Hot Topics
- SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวจากการรีบาวน์ของหุ้นท่ีลงมามาก เช่น ธนาคาร, ขนส่ง, ท่องเท่ียว หลัง สถานการณ์ COVID ในประเทศเริ่มทรงตัว
- Dollar Index แข็งค่า, Bond Yield 10 ปีสหรฐัฯ ไต่ระดับขึ้น ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯท่ีจะรายงานในวันพุธนี้
- น้ำมันดิบ NYMEX ทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
- บทวิเคราะห์ ได้แก่ TU, QH, MC, BPP, LPH, CPN, SPA, NER, PTTGC, INTUCH
Market Recap
SET Index วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นท่ี 1,540.19 จุด เพิ่มขึ้น 18.47 จุด (+1.21%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7 หมื่นล้านบาท หุ้น Most Active GULF (+2.68%), DELTA (+2.43%), KBANK (+3.83%), 7UP (-7.20%), BANPU (-1.44%)
กระแสเงินทุน
หุ้น นักลงทุนสถาบันภายในประเทศกลับมาซื้อสุทธิ มูลค่า 2.4 พันล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ มูลค่า 136 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนสถาบันภายในประเทศมีสถานะขายสุทธิสะสม 3.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันท่ี 4 มูลค่า 436 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ มูลค่า 2.1 พันล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิสะสม 1.02 แสนล้านบาท
SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ ราว 3.1 หมื่นสัญญา โดย QTD มียอด Long สุทธิสะสมราว 1.1 หมื่นสัญญา
ตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ มูลค่า 753 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ขายสุทธิ 2.1 พันล้านบาท
Factors
(-) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดท่ี 66.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่รัฐบาลของหลายประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะจีนประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านหินด้วย
(+) IVL มั่นใจเศรษฐกิจในทวีปยุโรป-อเมริกาฟื้น หนุนความต้องการบรรจุภัณฑ์โตแรง พร้อมรับอานิสงส์จากสเปรดมีแนวโน้มแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเงินบาทอ่อนหนุน EBITDA เติบโตขึ้น ต้ังแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ต่อเนื่องถึงปี 2565 ย้ำทุนแกร่ง เผยดีลซื้อกิจการในบราซิลอาจปิดดีลได้มูลค่าต่ำกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน
(0) กกร.ยื่นหนังสือนัดนายกฯ ชง 4 ข้อเสนอ เร่งแก้ปัญหาโควิด กระทบภาคธุรกิจ ขอปลดล็อกนำเข้าวัคซีน-ยาฟาวิฯ ชี้อย่าปิดกั้นจนประเทศขาดแคลน ขอหนุนอุปกรณ์ตรวจเชื้อเร่งช่วยเอสเอ็มอี
(-) อนุทิน “เผย พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดฯ ช่วยผู้ปฏิบัติงานโควิดมั่นใจไม่ต้องกังวลถูกฟ้อง สธ.แถลงสภาวิชาชีพ-สมาคม รพ.เอกชนเสนอ ระบุเจตนาคุ้มครอง สร้างขวัญกำลังใจให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะท่ี “คณะก้าวหน้า” ชี้ พ.ร.ก.นิรโทษใช้บุคลากรการแพทย์บังหน้า “เหมาเข่งนักการเมือง” พ้นผิดล้มเหลว
(+) APCS ครึ่งปีหลัง 2564 โดดเด่น ชูธุรกิจชิ้นส่วน-EPC หนุนพอร์ตจ่อชิงงานใหม่หมื่นล้านบาท คาดหวังได้งาน 30% ลุยธุรกิจไฟฟ้าเต็มสูบหลังเห็นผลตอบแทนมั่นคง ด้านโบรกคาดไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิที่ 50 ล้านบาท พลิกบวกจากปีก่อน
(0) จับตางบกลุ่มเหล็กวันนี้ (10 ส.ค.) คิว PAP ขณะท่ี PERM-TMT แจ้งศุกร์นี้นักวิเคราะห์มองงบกระฉูดจากราคาขายพุ่ง มองมีโอกาสดีอีก Q3/2564 “PERM” รับครึ่งหลังราคาเหล็กไปต่อดีมานด์สูง ซัพพลายวูบ มีสต๊อกราคาถูกหนุนเร่ง ขยายผลิตเหล็กเคลือบสีด้าน TMT มองราคาเหล็กดียาวถึงปีหน้า เศรษฐกิจฟื้นตัวหนุนปีนี้ทุบสถิติ 2 หมื่นล้านบาท
(0) Block Trade ที่สถานะคงค้างปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีสัญญาณบวกคือ BPP, GPSC ส่วนตัวที่สถานะคงค้างเพิ่มขึ้น และมีสัญญาณลบคือ PSL, SPRC
