Our View? “อย่าหยุดยั้ง”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,653 / 1,650 และแนวต้านที่บริเวณ 1,665 / 1,670 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 2.25 แสนราย ตามที่ตลาดคาด และสูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 2.16 แสนราย บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งคาดจะส่งผลให้ FED อาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้บ้างเล็กน้อย เป็นปัจจัยบวกหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะสั้น
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ปรับตัวลงปิดที่ระดับ 78.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.56 ดอลลาร์ (-0.7%) ตามความกังวลระยะสั้นจากการที่จีนเปิดประเทศอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 และจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบลดลงได้บ้างในระยะสั้น ทั้งนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยจากการที่ไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยข้อมูลจาก Trip.com Group ระบุว่าไทย เป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 2 ของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 11 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกิน 25 ล้านคนได้ มองเป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศ
ในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, HL และ TKN อย่างไรก็ตาม เราคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีนคาดอาจส่งผลให้ COVID- 19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก คาดชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามาเพื่อใช้บริการฉีดวัคซีน และดูแลสุขภาพมากขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ร.พ. BH, BDMS, BCH, PR9, CHG และ EKH
สำหรับปัจจัยในประเทศยังมองการเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของปี คาดปริมาณการซื้อขายของตลาดยังคงเบาบางอย่างนัยยะจากการเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงปีใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดผันผวนได้บ้างในระยะสั้น ขณะที่การนำ DELTA เข้าคำนวณในดัชนี SET50 อีกครั้ง คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง สวนทางทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ถือเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้า อีกทั้งแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 66 มองเป็นปัจจัยบวกต่อการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าเพิ่มเติม เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย กระตุ้น Fund Flow ไหลเข้าได้ต่อในช่วงปีหน้า ทั้งนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ ธปท. ออกมาส่งสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. และปีหน้ามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องตามการกลับมาของภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ KTB) จากการที่สมาคมธนาคารไทยแจ้งธนาคารพาณิชย์เตรียมทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.40% ต่อปี หลัง ธปท.ประกาศสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) กลับเข้าสู่อัตรา 0.46% ต่อปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 66 เป็นต้นไป จากระดับปัจจุบันที่จ่ายเข้ากองทุนที่ระดับ 0.23% ต่อปี คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “HL”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 24.20 / 23.70 Target 27.00 / 29.00 Stop <23.50