บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +9.5%

Close Dec 29, 2022 Price (THB) 13.70

12M Target (THB) 15.00

Previous Target (THB) 15.00

What’s new?

  • มีแผนขยายธุรกิจเพิ่ม เป็นธุรกิจต่อเนื่องจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ลงทุนผ่านบริษัทลูก เริ่มต้นงานบริการบำรุงรักษาและบริหารจัดการระบบอาคาร
  • ในปี 2565 รับงานใหม่เพิ่ม 2.3 หมื่นล้านบาท งานในมือปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 9.2 หมื่นล้านบาท ปี 2566 รอประมูลงานใหม่ พร้อมเซ็นสัญญางานสนามบินอู่ตะเภา

Our view

  • คาดผลประกอบการเบื้องต้นใน 4Q65 มีกำไรราว 150-160 ล้านบาท ลดลง YoY แต่เติบโต QoQ คาดเห็นการฟินตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังงานในมือสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ ปัญหาคนงานขาดแคลนคลี่คลาย
  • ปัจจัยเสี่ยง การประมูลล่าช้ากว่าคาด จากสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงของราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาน้ำมันกระทบอัตรากำไรสุทธิ การแพร่ระบาด COVID-19 ที่มากกว่ากว่าคาด

SINO-THAI ENGINEERING AND CONSTRUCTION

งานในมือได้รับการต่อยอด…พร้อมแผนขยายธุรกิจเพิ่ม

ขยายธุรกิจใหม่เพิ่ม…เสริมกำไรในอนาคต

STEC รายงานผ่านตลท. จากคณะกรรมการบริษัทอนุมัติในการจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ซิโน-ไทย โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการขยายธุรกิจเพิ่มเติม นอกเหนือจากธุรกิจก่อสร้าง โดยในเบื้องต้นของธุรกิจใหม่จะเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจก่อสร้าง (Vertical integration) โดยเริ่มต้นจากการเข้าถือหุ้นในบริษัท ไซเต็ม เอสที เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จก. ในสัดส่วน 30% กับพันธมิตร บริษัทไซเต็ม คอร์เปอร์เรชั่น จก. ถือสัดส่วน 70% เป็นบริษัทประกอบธุรกิจบำรุงรักษาและบริหารจัดการระบบประกอบอาคาร  คาดเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้และหนุนกำไรของ STEC ในอนาคต โดยบริษัทให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างเริ่มต้นของการรับงาน คาดเห็นความชัดเจนในปี 2566 เป็นธุรกิจที่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร เพื่อเป็นส่วนช่วยสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการโดยรวม ทั้งนี้ในระยะกลาง-ยาว บริษัทอาจมีการพิจารณาขยายธุรกิจอื่นๆ ที่อาจไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจก่อสร้าง แต่คงเน้นธุรกิจที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทโดยรวม

งานในมือสูงปัจจุบันอยู่ระดับ 9 หมื่นล้านบาท

STEC มีงานใหม่นับจากต้นปี-ปัจจุบัน ที่ได้รับมูลค่าโดยรวม 2.3 หมื่นล้านบาท จากงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย 1.4 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดได้รับงานสายไฟฟ้าใต้ดินของ กฟน. 2 เส้นทาง 1) งานจากการไฟฟ้านครหลวง เป็นงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (แยกลำสาลี-ถ.เทพารักษ์) มูลค่างาน 3.5 พันล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 3.5 ปี และ 2) งานจากการไฟฟ้านครหลวง เป็นงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (คลองถนน-ถนนรามคำแหง) มูลค่างาน 4.4 พันล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 3.5 ปี วงเงินโดยรวม 2 โครงการ 7.9 พันล้านบาท หนุนงานในมือปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 9.2 หมื่นล้านบาท

แนะนํา “ซื้อ”

เราคาดผลกระทบจากราคาวัตถุดิบเริ่มคลี่คลาย ตามทิศทางเดียวกับเงินเฟ้อ ขณะที่ปัญหาคนงานขาดแคลน ที่ได้รับการแก้ไขสามารถนำเข้าแรงงานต่างประเทศได้ ทำให้ความคืบหน้าของงานทำได้เป็นปกติ เราคาดผลประกอบการในปี 2566 จะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตเราคาดกำไรปกติที่ 923 ล้านบาท (+33%YoY) มาจากการรับรู้รายได้ 3.3 หมื่นล้านบาท เห็นการเติบโต 14 % YoY ซึ่งอยู่ในกรอบประมาณการ STEC ที่คาดเห็นการเติบโตของรายได้ราว 10-15% ทั้งนี้เรามีโอกาสปรับประมาณการเพิ่ม หลังจากงานใหม่ที่ได้รับค่อนข้างมีอัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งอาจมีผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีดีกว่าเราคาดที่ระดับ 5.1% ปัจจุบันบริษัทซื้อขายในระดับ PBV ที่ 1.2 เท่า ยังคงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ซื้อขาย PBV บนระดับ 1.8 เท่า ราคาเหมาะสมปี 2566 ที่ 15 บาท (อ้างอิง PBV -0.75 SD ที่ 1.35 เท่า)

- Advertisement -