Our View? “ติดตาม FED Meeting Minutes”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,670 / 1,660 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,695 มองตลาดอาจได้รับจิตวิทยาเชิงลบบ้างจากเมื่อคืนนี้ S&P Global รายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตสหรัฐเดือน ธ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ 46.2 หดตัวลงต่อเนื่อง รวมทั้งคาดว่าตลาดจะแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อรอดูรายงานการประชุม FOMC (FED Meeting Minutes) ในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อประเมินท่าทีในการใช้นโยบายทางการเงินในปีนี้ของ FED ว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ โดยล่าสุด Dollar Index เริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้งอยู่ที่ระดับ 104.68 สะท้อนตลาดคาดการณ์ FED น่าจะมีมุมมองในเชิงคุมเข้มต่อนโยบายทางการเงินต่อไปอีกระยะ คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวลงได้บ้างเล็กน้อย อีกทั้งเราคาดว่าในช่วงกลางเดือนนี้ตลาดจะเริ่มกลับมาให้นํ้าหนักกับการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 คาดอาจได้รับแรงกดดันจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ย FED ที่ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรปมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยคาดเป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางตลาดได้บ้างเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้า ประเทศไทยราว 1 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยว ต่างชาติในปีนี้เกินกว่า 25 ล้านคนได้ในปี 66 มองเป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ย วและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA,CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS และ TKN อย่างไรก็ตาม เราคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีน คาดอาจส่งผลให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก คาดชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามาเพื่อใช้บริการฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพมากขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ร.พ. BH, BDMS, BCH, PR9, CHG และ EKH
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงปิดที่ระดับ 76.93 ดอลลาร์/บาร์เรล -3.33 ดอลลาร์ (-4.15%) หลังมีรายงานรัฐบาลจีนเพิ่มโควตาในการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันในปีนี้ สะท้อนแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันในจีนที่อ่อนแอ ขณะที่ดัชนีดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ธ.ค. ของจีน โดย Caixin เมื่อคืนนี้ออกมาที่ระดับ 49.0 บ่งชี้ภาคการผลิตจีนยังคงหดตัวต่อเนื่อง อีกทั้งราคาพลังงานยัง เผชิญแรงกดดันจากความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรป คาดจะเป็นปัจจัยกดดันทิศทางหุ้นใน กลุ่มพลังงานได้อยู่
สําหรับปัจจัยในประเทศยังคงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง อีกทั้งแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 66 มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยกระตุ้น Fund Flow ไหลเข้าได้ต่อเนื่อง รวมทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ KTB) จากการที่สมาคมธนาคารไทยแจ้งธนาคารพาณิชย์เตรียมทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.40% ต่อปี หลัง ธปท.ประกาศสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) กลับเข้าสู่อัตรา 0.46% ต่อปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. 66 เป็นต้นไป จากระดับปัจจุบันที่จ่ายเข้ากองทุนที่ระดับ 0.23% ต่อปี คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ต่อ อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้น DELTA ซึ่งในขณะที่เข้าคำนวณในดัชนี SET100 และมี Market Cap. สูงที่สุดในตลาด คาดจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “SCB”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 106.50/104.50 Target 113.00/122.00 Stop <102.00