สรุปภาวะตลาด
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อ +10 จุด หลักๆ มาจากแรงซื้อหุ้น DELTA ส่งผลต่อดัชนีราว 10.2 จุด หุ้นกลุ่มค้าปลีก กลุ่มธนาคาร และมีแรงซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,678.97 จุด +10.31 จุด +0.62% มูลค่าการซื้อขาย 64,998 ลบ. ต่างชาติ +1,441.77 ลบ. TFEX +13,038 สัญญา ตราสารหนี้ +11,321.01 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.2%MoM ในเดือนพ.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.4% หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนต.ค.
+ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ระหว่างปรับรายละเอียดการใช้งบประมาณโครงการเราเที่ยวด้วยกัน วงเงิน 4,000 ล้านบาท หลังถูกปรับลดงบประมาณลงจาก 8,700 ล้านบาท โดยจะนำเสนอให้ครม. พิจารณาอีกครั้งวันที่ 10 ม.ค.2566
+ ที่ประชุม ครม. เห็นชอบและประกาศใช้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ระหว่างปี 66-70 รวม 5 ปี เพื่อใช้เป็นแนวทางจัดทำแผนงานเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในทุกระดับ
+/- รัฐบาลเร่งเครื่องทำ “งบประมาณปี 67 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาท ขาดดุล 5.93 แสนล้าน เตรียมชงครม. 10 ม.ค.นี้ ส่งสัญญาณการเมืองปูทางยุบสภาฯ
ปัจจัยลบ –
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 10.88 จุด หรือ -0.03% นักลงทุนยังกังวลว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับจับตารายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ของเฟด ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.33 ดอลลาร์ -4.1% ปิดที่ 76.93 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจาก ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในจีน รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
– ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.2 ในเดือนธ.ค. จาก ระดับ 47.7 ในเดือนพ.ย. แต่สอดคล้องกับตัวเลขเบื้องต้น
– รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ประณามประเทศต่างๆ เรื่องมาตรการตรวจโรคโควิด-19 กับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศจีน โดยเตือนว่าอาจใช้มาตรการตอบโต้
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัว หลังปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวันทำการ โดยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,670-1,685 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ช้อปที่มีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
- การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. 66 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
- หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
- หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
- หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
- หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
หุ้นรายงานพิเศษ
ARROW ( “ชื้อ” ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 8.00 บาท) ผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำาสุดไปแล้ว
- เราคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะทยอยฟื้นตัว เนื่องจากปัจจุบันราคาเหล็กปรับตัวลดลง จะทำให้ต้นทุนผลิตดีขึ้น ประกอบกับภาพรวมของเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยบริษัทคาดว่าภาพรวมปี 66 อุตสาหกรรมในกลุ่มก่อสร้างจะฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 10%YoY โดยเฉพาะในงานกลุ่มโครงการสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท ประกอบกับมีการขยายธุรกิจโรงเรือนเกษตรแบบครบวงจร เพื่อมาช่วยชดเชยรายได้กลุ่มงานรับเหมาที่หายไป (ดำเนินการผ่านบ.ย่อย เมฆา-เอส) เรายังคงประมาณการรายได้ปี 22-23 เท่ากับ 1,206.8 ล้านบาท และ 1,303.3 ล้านบาท เติบโต +19.0%YoY และ +8.0%YoY พร้อมคงกำไรสุทธิที่ 107.7 ล้านบาท -21.7%YoY และ 127.3 ล้านบาท +18.2%YOY ตามลำดับ
- ความเห็น เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปี 23 ปรับขึ้นจากคานทุนวัตถุดิบที่เริ่มอ่อนตัวลง เราประเมินราคาเหมาะสม อิง PER ที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ภายใต้สมมติฐานประมาณการปี 23 ได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 8.00 บาท ยังมี Upside จากราคาปัจจุบัน เราจึงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมคาดหวังอัตราปันผลราว 4-5% ต่อปี
หุ้นมีข่าว
(+) NER (Bloomberg consensus 40.00 บาท) รับอานิสงส์จีนเปิดประเทศ ดันยอดขายปี 2566 เติบโตแตะ 5 แสนตัน ตลาดรถอีวีจีนหนุนดีมานด์ยางเพิ่ม ขณะที่ราคายางพื้นตัวดีขึ้น มั่นใจรายได้วน 3 หมื่นล้านบาท โบรกคาดจีนจะเร่งสะสมสต๊อกยาง ก่อนฤดูปิดกรีดยางในไตรมาส 2/2566 หลังมีสต๊อกยางไม่มาก ส่วนการคลายล็อกดาวน์ในจีนจะทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัว อุตสาหกรรมรถยนต์ และยางล้อเติบโตได้ดี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SPVI (Bloomberg consensus 5.90 บาท) ส่งสัญญาณยอดขายบูม ชี้เขตภูมิภาคกำลังซื้อล้น พร้อมเร่งอัดโปรแรงกระตุ้นยอดช่วงต้นปีเพิ่ม โดดรับอานิสงส์ช้อปดีมีคืน-เทศกาลปีใหม่ ฟากบอสใหญ่ “ไตรสรณ์ วรญาณโกศล” เดินหน้าขายอุปกรณ์สื่อสารเต็มสูบ คาดยอดขายปี 2566 โต 10% จากปี 2565 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IP (Bloomberg consensus 20.00 บาท) เดินหน้าปั๊มรายได้ปี 2566 แตะ 2.5 พันล้านบาท จากปีก่อนคาดทําได้ 1.5-1.6 พันล้านบาท บอส “ตฤณวรรชนี สนิทนิลพันธุ์” เปิดกรุรับทรัพย์เงินลงทุนเต็มปี คาดร้านขายยาโตเกือบ 100% ดีมานด์ล้น เล็งสยายปีกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยุโรป อเมริกา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PRM (Bloomberg consensus 9.10 บาท) ความต้องการน้ำมันเครื่องบินมาร์จิ้นสูงพุ่ง ดีมานด์เรือสํารวจทางทะเลมาก ดันธุรกิจโดดเด่นปีนี้ ยังมีการกักตุนน้ำมันในเรือ ตั้งงบลงทุน 2 พันล้านบาท ขยายกองเรือรองรับความต้องการ มั่นใจรายได้รวมทั้งปี 2566 เติบโตต่อเนื่องกว่า 10% (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 5 ม.ค. สํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า
- สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
- 25 ม.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566
- 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 4 ม.ค. 2566 สหรัฐ รายงานดัชนีภาคการผลิต เดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน พ.ย.
- (เช้าวันที่ 5 ม.ค.) คณะกรรมการกาหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม
- 5 ม.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.จากไฉซิน
- สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดนําเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.จากเอส แอนด์พี โกลบอล สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กําหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย