บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +11.5%
Close Jan 3, 2023 Price (THB) 32.75
12M Target (THB) 36.50
Previous Target (THB) 42.00
What’s new?
- ปรับกำไรสุทธิปี 2565 – 2566 ลง 11% และ 7% เป็น 9.5 หมื่นล้านบาท (-12% YoY) และ 1.0 แสนล้านบาท (+7% YoY) ตามลำดับ
- แนวโน้มกำไร 4Q65 – 2566 ฟื้นตัวจากฐานต่ำ แต่ภาพรวมยังไม่เด่น โดย 4Q65 ยังถูกถ่วงจากราคาขายก๊าซที่มีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันเตา – ปิโตรเคมี รวมทั้งผลกระทบจากนโยบายพลังงานของภาครัฐเพิ่มขึ้น ส่วนปี 2566 มีปัจจัยถ่วงจากทิศทางราคาพลังงานชะลอลง และการปรับลดค่าผ่านท่อก๊าซเต็มปี
Our view
- หุ้นมี Valuation ไม่แพง และโครงสร้างธุรกิจครบวงจร ทําให้ผลประกอบการมีเสถียรภาพ สามารถทนแรงเสียดทานช่วงตลาดผันผวนได้ดี
- อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นยังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน เพราะงบไม่เด่น รวมทั้งเมื่อเทียบกับคู่แข่งหุ้นมีความเสี่ยงจากนโยบายภาครัฐสูง โดยเฉพาะช่วงราคาพลังงานแพง และเข้าใกล้เลือกตั้ง
- ทางพื้นฐานคงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสมใหม่ 36.50 บาท
PTT เผชิญความเสียงด้านนโยบายต่อไป
ปรับประมาณการปี 2565-2566 ให้รัดกุมมากขึ้น
ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 – 2566 ลง 11% และ 7% มาอยู่ที่ 9.5 หมื่นล้านบาท (-12% YoY) และ 1.0 แสนล้านบาท (+7% YoY) ตามลำดับ สะท้อนความอ่อนแอของงบ 9M65 จากผลกระทบการพุ่งขึ้นของต้นทุนก๊าซตามราคาตลาดโลก และปริมาณอุปทานในอ่าวไทยที่จํากัด รวมทั้งการให้ความร่วมมือช่วยเหลือด้านพลังงานตามนโยบายภาครัฐ สําหรับ 2566 คาดผลประกอบการฟื้นตัว YoY ตามอุปสงค์ก๊าซที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการเร่งผลิตการในอ่าวไทยช่วยหนุนอัตราผลิตโรงแยกก๊าซ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังไม่เด่นเพราะต้นทุน Spot LNG ยังอยู่ระดับสูง, ราคาน้ำมัน – ค่าการกลั่นมีแนวโน้มชะลอลง และรับผลกระทบการปรับค่าผ่านท่อก๊าซเต็มปี (ราว 5 พันล้านบาท)
4Q65 ฟื้นตัว QoQ จากฐานต่ำ แต่ยังไม่เด่น
ทิศทางผลประกอบการ 4Q65 คาดฟื้นตัว QoQ จากการลดลงของต้นทุนก๊าซ ตามราคา Asia Spot LNG และปริมาณการนำเข้า Spot LNG ที่ราคาแพง (คาดเหลือ 10 Cargo เทียบกับ 19 Cargo ใน 3Q65), ธุรกิจโรงกลั่นฟื้นตัวตามค่าการกลั่น – ขาดทุนสต็อกน้ำมันลดลง, ขาดทุน FX ต่ำลงจากเงินบาทแข็งค่า อย่างไรตาม ภาพรวมกำไรยังไม่โดดเด่น เพราะราคาขายก๊าซมีทิศทางลดลงตามราคาน้ำมันเตา – ปิโตรเคมี ขาดทุนในธุรกิจ NGV จากการกำหนดราคาของภาครัฐ, รับรู้การปรับลดค่าผ่านท่อก๊าซเต็มไตรมาส และเงินสนับสนุนกองทุนน้ำมัน 1 พันล้านบาทเดือน (ตั้งแต่เสี้ยนก.ย. – พ.ย.)
เผชิญความเสี่ยงด้านนโยบายต่อไป ท่ามกลางภาวะราคาพลังงานแพง – ใกล้เลือกตั้ง
วันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา PTT มีแนวทางช่วยเหลือภาระค่าไฟฟ้า โดยจะสนับสนุนในรูปแบบบริหารจัดการอุปทานก๊าซให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น เช่น การจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย และ LNG ที่มีราคาเหมาะสมเข้ามาช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า มูลค่าเทียบเท่า 5 พันล้านบาท แทนการจัดสรรรูปแบบตัวเงิน 1 พันล้านบาท/เดือน เป็นเวลา 4 เดือน แม้รูปแบบการช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบต่อกำไรของ PTT ดีกว่าการสนับสนุนเป็นตัวเงิน อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวยังคงกระทบต่อ Margin ช่วง 1H66 นอกจากนี้ PTT ยังมีความเสี่ยงจากนโยบายภาครัฐต่อไป โดยเฉพาะภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานแพง และใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง (รัฐบาลอยู่ครบเทอมวันที่ 23 มี.ค.) สำหรับ 1Q66 นอกจากผลกระทบต่อ Margin จากการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซข้างต้น คาดธุรกิจ NGV ยังอยู่ใต้ภาวะขาดทุนจากนโยบาย กบง. ที่กำหนดราคา NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 17.59 บาท/กก. และรถแท็กซี่ในโครงการลมหายใจเดียวกันอยู่ที่ 13.62 บาท/กก. (จนถึงกลางเดือนมี.ค. 2566) เทียบกับต้นทุนจริงระดับ 20-25 บาท/กก. นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยต้องติดตามเกี่ยวกับการจัดหาวงเงินเพื่อช่วยเหลือค่าไฟฟ้าตามมาตรการของภาครัฐ ซึ่งกกพ. อาจเสนอให้ PTT คืนรายได้ค่า Shortfall การผลิตก๊าซในอ่าวไทย (ปีละ 4-5 พันล้านบาท)
คงคําแนะนํา TRADING จังหวะลงทุนที่ยังมาไม่ถึง
ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 36.50 บาท อ้างอิง SOTP โดยให้ส่วนลดมูลค่าบริษัทลูก 20% จากการเป็น Holding Company และคิดมูลค่าธุรกิจที่ PTT ดำเนินงานเองด้วย PER 13 เท่า แม้หุ้นมี Valuation ไม่แพง ซื้อขายบน PBV 0.8 เท่า มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีต 10 ปี กว่า -2.0 SD โครงสร้างธุรกิจบูรณาการครบวงจรช่วยให้ผลประกอบการมีเสถียรภาพ ฐานะการเงินมั่นคง สามารถทนแรงเสียดทานจากความผันผวนได้ดี รวมทั้งมีความน่าสนใจจากธุรกิจใหม่ เช่น EV แบตเตอรี่ ยา อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำเพียง TRADING เพราะผลประกอบการระยะสั้นคงถูกถ่วงด้วยนโยบายรัฐ, ต้นทุนก๊าซอยู่ระดับสูง และปัญหาอุปทานในอ่าวไทยช่วงเปลี่ยนผู้ดำเนินโครงการ