ตลาดยังมีมุมมองลบต่อเศรษฐกิจ กรอบ SET INDEX 1665-1678
Market Outlook
เมื่อคืนสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคผลิตจากสถาบัน ISM พบว่าอยู่ที่ 48.4 ใกล้เคียงที่ตลาดประเมินไว้ที่ 48.5 แต่ลดลงจากเดือนก่อนที่ 50 ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงภาคผลิตในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ ขณะเดียวกันรายงานตำแหน่งงานเปิดรับสมัคร ที่ 10.46 ล้านตำแหน่ง สูงกว่าตลาดประเมินไว้เล็กน้อยที่ 10.04 ล้านตำแหน่ง ภายหลังจากรายงานตัวเลขทั้งหมดพบว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปียังคงปรับลงต่อเนื่อง บ่งชี้ว่าแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาผสมผสาน แต่สุดท้ายตลาดเลือกที่จะมองในทางลบต่อทิศทางเศรษฐกิจ โดยคืนนี้ติดตามภาคแรงงานของสหรัฐฯ ต่อเนื่องกับ ADP Bloomberg ประเมินไว้ที่ 1.52 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.27 แสนตำแหน่ง หากออกมาใกล้เคียงเช่นนี้จริงก็ถือว่ามีการจ้างงานที่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากค่าเฉลี่ยในช่วง 2015-2020 (ก่อน Covid-19) อยู่ที่ 2.43 แสนตำแหน่ง เป็นตัวสะท้อนภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องจับตารอดูภาคการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์พร้อมกับอัตราการว่างงาน เชื่อว่าหลังจากนี้มีทิศทางเร่งขึ้น
ส่วนในประเทศวันนี้จะมีการประชุมกัน 4 กระทรวงสำหรับมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน เชื่อว่ามาตรการคุมเข้มไม่น่าจะรุนแรงเท่าใดนัก จึงยังเกื้อหนุนให้นักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กับราคาหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวไม่ได้มองเป็นบวกมากนัก เชื่อว่าราคาปัจจุบัน Price In ไปมากแล้ว และมีการคาดการณ์จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่าสิ้นปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งหมดราว 25 ล้านคน (รวมจีนแล้ว) แต่ตัวเลข 25 ล้านคนนั้น ก็ยังถือว่าห่างกับช่วงปี 2019 ที่ 40 ล้านคน วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1665-1678 ประเมินกลุ่มน้ำมันกดดันต่อเนื่อง แต่ก็เชื่อว่าจะได้แรงหนุนจากจิตวิทยาที่เป็นบวกจากตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei) และสหรัฐฯ
- เชิงกลยุทธ์การลงทุน เน้นเพียง Trading ในหุ้นที่ยัง Laggard และมีปัจจัยบวก อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (BJC, HMPRO) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, RATCH) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) กลุ่มสินค้า IT (COM7, SYNEX)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
BBL ราคาพื้นฐาน 171.00 บาท
คาด BBL จะมีกำไรสุทธิโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/22 หนุนจาก NII สูงขึ้น และการสำรองหนี้ที่ลดลง นอกจากนี้กลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้น คาด NIM ของกลุ่มจะโตทั้ง YoY และ QoQ เป็น 3.1% ในไตรมาส 4/22 ประเมินว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะมี NIM ที่โตมากขึ้น นําโดย BBL
SCB ราคาพื้นฐาน 144.00 บาท
บริษัทตั้งเป้า ROE ธุรกิจธนาคารในหลักสิบต้นสำหรับปี 2025 และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อดิจิทัล (Gen 2) รวมถึงระบบนิเวศด้านดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น