เฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ยแรง

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,673.25 จุด ลดลง 5.72 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 76,428.64 ล้านบาท มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันร่วงลงแรง และ DELTA

แนวโน้มตลาดวันนี้… ขานรับเฟดส่งสัญญาณผ่อนคันเร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยจะยังปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเมื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่จะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง และ US bond yield ย่อตัวลง หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงแรงหนุนกลุ่ม Anti-commodity ส่วนปัจจัยในประเทศมีประชุมมาตรการด้านสาธารณสุขรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ เป็นบวกต่อกลุ่ม Re- opening และ Domestic play รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ ธ.ค. 65 ตลาดคาดขยายตัว 5.9% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 5.55% หากออกมาตามคาด จะเป็น sentiment เชิงลบต่อตลาด

ติดตาม Nonfarm Payrolls สหรัฐ และ CPI กลุ่ม EU สุดสัปดาห์นี้

กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway มี upside เริ่มจำกัด แนะนำ Trading ในกรอบ 1656-1680 โดยแนะนำสะสม

    • กลุ่มธนาคาร BBL KBANK TTB KKP ที่เรามองว่ามี downside ที่จำกัด
    • กลุ่มโรงพยาบาลจากความกังวลการแพร่ระบาดโควิดหลังจีนเปิดประเทศ BH BDMS PR9 IMH
    • Re-opening ERW CENTEL AOT SPA CRC SH
    • January Effect DELTA HANA SINGER JMART KBANK KTB AOT ADVANC KTC
    • High div. Yield SCC KKP TISCO TVO AP NOBLE TASCO ADVANC

เคาะไป คุยไป… CRC

  • CRC ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 20% และมีโอกาสทำได้สูงกว่าเป้า หลังมีการคลี่คลายมาตรการโควิดที่ดีขึ้น ผ่านการเปิดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ทั้งหมด 3 แห่ง รวมถึงเพิ่มร้านค้า และเปิดตัวธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ทุกไตรมาส รวมถึงได้ sentiment เชิงบวกจากประเทศจีนเตรียมเปิดประเทศ
  • แนวโน้ม 4Q65 ผู้บริหารประเมินรายได้รวม และยอดขายต่อสาขา (SSSG) มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง QoQ ในทุกประเทศ ทั้งไทย, เวียดนาม, และอิตาลี เนื่องจากเป็นช่วง high season แต่อาจทรงตัว YoY จากฐานที่สูง ส่วนแนวโน้มในปี 66 ขยายตัวต่อเนื่องในระดับ double digit จากแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ช่วง 1Q66 และมีแผนขยายสาขาธุรกิจใหม่ราว 2-3 สาขา ขณะที่บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงาน

Global Markets

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าควรจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของฝรั่งเศสที่ลดลง  และข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนที่ดีเกินคาด

(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน การอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

ประเด็นเด่นวันนี้

  • กนง. ประกาศกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ปี 66 ทางฝ่ายมีมุมมองอย่างไร? วานนี้ กนง. ประกาศเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 66 โดยคงกรอบ 1-3% โดยยึดตามข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กนง. และ รมว.คลัง โดยมองเงินเฟ้อทั่วไปได้ทำจุดสูงสุดใน 3Q65 แล้ว แต่มองยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ภายนอกประเทศ การส่งผ่านต้นทุนที่อาจเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ด้านพลังงาน และภูมิรัฐศาสตร์ที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคตได้ โดยทางฝ่ายมองปัญหาเงินเฟ้อมักสอดคล้องไปกับราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันอิงทางลงและใกล้ระดับต้น ปี 2022 แล้ว จึงมองในระยะถัดไปปัญหาเงินเฟ้อในประเทศจะค่อยๆ คลี่คลายลง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันด้านราคาให้หุ้นในกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว ขนส่ง
  • จีนจ่อยกเลิกแบนนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย วานนี้สำนักข่าว Bloomberg รายงาน คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ได้ตั้งโต๊ะเจรจาหารือ การนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่ หลังระงับการนำเข้าจากออสเตรเลียมานานกว่า 2 ปี จากสาเหตุด้านความสัมพันธุ์ระหว่าง ประเทศ ทำให้ทางฝ่ายมองจะมีอุปสงค์จากจีนเข้ามาเสริม อาจคาดหวังการรีบาวด์ของราคาถ่านหินได้ หลังช่วงต้นสัปดาห์ราคาถ่านหินปรับตัวลงจากความกังวลด้านอุปสงค์ที่หายไปท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิดในจีน  อาจพิจารณารอซื้อเล่นรอบในหุ้นถ่านหิน เช่น BANPU LANNA AGE เมื่อเริ่มเห็นสัญญาณกลับตัว
- Advertisement -