Daily Focus: Consumption and Reopening Play

2023SET Target : 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index พักตัวลงต่อเนื่อง ปิดลบอีก 9.39 จุด โดยเป็นผลจาก DELTA ที่ปรับลงแรง และกระทบเป็นลบถึง 10.6 จุด ซึ่งหากหักออกหุ้นอื่นๆ ในตลาด โดยรวมยังทรงตัวได้ค่อนข้างแข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร สื่อสารฯ และ Anti-Commodity สถาบันในประเทศเป็นฝ่ายขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.7 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.3 พันลบ. (แต่ Short Index Futures หนาแน่นขึ้นเป็น 1.7 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ :  เราคาด SET Index แกว่ง Sideways กรอบ 1,655-1,670 จุด หลังจากพักตัวลง 2 วันก่อนหน้า ตลาดกลับมากังวล FED ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาด ส่งผลให้ Bond Yield และ Dollar Index พลิกมาปรับขึ้น ส่วนคืนนี้มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และค่าจ้างแรงงานสหรัฐฯ หากออกมาสูงกว่าคาด เรามองจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% ในการประชุมต้นเดือนหน้า โดยรวมปัจจัยที่จะกดดันตลาดยังเป็นปัจจัยภายนอกทั้งเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินที่ตึงตัวเร็ว และความเสี่ยงเศรษฐกิจที่เสี่ยงหดตัว และมีแนวโน้มกระทบกลุ่มส่งออก แต่การบริโภคในประเทศคาดว่ายังคงแข็งแรง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่จะเร่งตัว โดยคาดหวังเชิงบวกหลังจีนเริ่มเปิดประเทศวันที่ 8 ม.ค. คาดยังหนุนให้กระแสเงินทุนยังคงทยอยไหลเข้าในระยะกลาง-ยาว โดยรวมเราจึงยังชอบกลุ่ม Domestic/Consumption และ Reopening Play

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Consumption/Reopening/Anti-Commodity Play

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : BDMS

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33 บาท
  • ผู้บริหารคาดรายได้ปี 2022 +22% Y-Y โดยคาดโมเมนตัม 4Q22 ยังคงแข็งแกร่งและต่อเนื่องถึงปี 2023 จากความต้องการรักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และคาดรายได้ผู้ป่วยไทยและต่างชาติจะสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ในปี 2023
  • เป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2023-2025 อยู่ที่ +6-8% CAGR ซึ่งใกล้เคียงกับกับในอดีตที่จะเติบโตราว 1.5-2 เท่าของการเติบโตของ GDP เราคาดกำไรปกติปี 2022-2023 +47% Y-Y และ +14% Y-Y ทำ New High ต่อเนื่อง
  • แนวรับ 28//27 บาท แนวต้าน 30//32 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่นขึ้นเป็น US$321 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$274 ล้าน ส่วนอาเซียนโดยรวมยังไหลเข้าเกือบทุกประเทศ ทั้งไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ประเทศละ US$16-38 ล้าน แต่ไหลออกจากอินโดนีเซีย US$52 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดชะลอการไหลเข้า ตลาดรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ขณะที่ Bond Yield ขยับตัวขึ้นจากความกังวล FED ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยใน 1Q23

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) เงินเฟ้อไทยเดือน ธ.ค. ตามคาด เงินเฟ้อทั่วไป -0.06% M-M, +5.89% Y-Y ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +3.23% Y-Y ดีกว่าคาดเล็กน้อย และใกล้เคียง เดือน พ.ย. ที่ +3.22% Y-Y ส่งผลให้ทั้งปี 2022 เงินเฟ้อทั่วไป +6.08% Y-Y สูงสุดในรอบ 24 ปี จากราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงเข้าสู่กรอบเป้าหมายระยะปานกลางของธปท.ที่ 1-3% โดยประมาณการเศรษฐกิจของธปท.ล่าสุดคาดเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานปี 2023 ที่ +3% และ +2.5% ตามลำดับ เราประเมินว่า กนง.จะยังทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นลำดับใน 1H23 ขึ้นสู่ระดับ 1.75-2% และคาดเศรษฐกิจไทยคาดแข็งแรงเพียงพอ และกลับมาสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ภาพรวมเราจึงยังมองเป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มธนาคาร และยังเป็น Sector เป้าหมายของกระแสเงินทุนจาก Valuation ที่ยังถูกเทียบกับช่วงก่อน COVID-19 เรายังชอบ BBL KTB TTB

(0) จับตาเงินเฟ้อยูโรโซนและตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. ของยูโรโซน -0.1% M-M, +9.5% Y-Y ชะลอจากเดือนก่อนหน้า ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานคาด +5% Y-Y ทรงตัวใกล้เคียงเดือนก่อนหน้า ฝั่งสหรัฐฯ ตลาดคาดการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นชะลอเหลือ 2 แสนตำแหน่งจาก 2.63 ตำแหน่งเดือนก่อน สะท้อนเศรษฐกิจที่เพิ่มโตชะลอ อัตราว่างงานคาดทรงตัวที่ 3.7% และค่าจ้างแรงงานคาด +0.4% M-M, +5% Y-Y หากออกมาสูงกว่าคาด จะกดดันตลาดจากความกังวลว่า FED ยังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

(0) M คาดกำไร 4Q22 Flat Q-Q, +3% Y-Y โดยฝั่งรายได้คาด +2% Q-Q, +16% Y-Y จาก SSSG ที่ฟื้นแรง +14% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน อย่างไรก็ตาม การเติบโตของกำไรที่ต่ำกว่าคาดเป็นผลจาก Margin ที่ชะลอตัวลง เนื่องจาก M ล็อคราคาเนื้อสัตว์สูงตลอดปี 2022 และค่าแรงและสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น รวมถึงการจ่ายโบนัสพนักงาน แนวโน้มปี 2023 คาดว่ายังมีโมเมนตัมที่ดีหนุนจากทั้งการขยายสาขา รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวโดยเฉพาะเมื่อจีน เริ่มกลับมาเดินทางเข้าไทย ส่วนต้นทุนค่าไฟที่สูงขึ้นเราประเมินว่าจะชดเชยได้จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลง เราคาดกำไรปี 2022 +11x Y-Y และ +59% Y-Y ในปี 2023 คงราคาเป้าหมาย 66 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดลดลง 339.69 จุด หรือ -1.02% ปิดที่ 32,930.08 จุด จากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED จะดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดไปอีกระยะหนึ่งจนเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลง หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐแข็งแกร่ง และการปรับลงของหุ้นกลุ่มสื่อในยุโรป

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก แม้ FED จะส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.01 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.14% ปิดที่ 73.67 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 74.06 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.53%

(-) ราคาทองคำ COMEX ปิดลดลง 18.4 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 1,840.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกกดดันจากตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED จะดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่เช้านี้ปรับลงต่อที่ระดับ 1,839.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.08%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 916.77 / –

- Advertisement -