บล.ทรีนีตี้:
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป – TU
กำไร 2Q64 ดีกว่าคาดทำ New High
- กำไร 2Q64 อยู่ที่ 2,343 ล้านบาท ดีขึ้น 30%QoQ และ 45%YoY ดีกว่าคาดมาก
- ยอดขายรวมเติบโตดีจากการฟื้นตัวของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็ง
- อัตรากำไรขั้นทำ New High เช่นกันแม้ยอดขายอาหารทะเลแปรรูปที่มีกำไรสูงจะอ่อนตัวลงบ้าง แต่อัตรากำไรขั้นต้นของอาหารทะเลแช่แข็งฟื้นตัวดี
- ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster ลดลงมาก YoY หลังกลับมาเปิดสาขาได้
- แนวโน้ม 2H64 อาจอ่อนตัวลงบ้างจากฐานสูงใน 2Q64 แต่ยังดีขึ้น YoY ทำให้ภาพรวมทั้งปียังเติบโตสูง
- คงราคาเป้าหมาย 23 บาท Upside ค่อนข้าง จำกัด จึงแนะนำ“ ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
กำไร 2Q64 ดีกว่าคาดทำ New High รายไตรมาส
TU ประกาศกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 2,343 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30%QoQ และ 45%YoY ทำ New High รายไตรมาส และดีกว่าคาดไว้ก่อนหน้าถึง 16% โดยยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15%QoQ และ 9%YoY จากธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นที่ฟื้นตัวถึง 29%YoY หลังมีการเปิดเมืองในสหรัฐฯ ทำให้ร้านอาหารกลับมาสั่งซื้อสินค้า ในขณะที่อาหารทะเลแปรรูปยอดขายลดลง 7% YoY จากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการกักตุนสินค้าในช่วงปิดเมือง ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19% เป็นระดับ New High รายไตรมาส แม้ว่าสัดส่วนยอดขายอาหารทะเลแปรรูปที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงจะลดลงบ้างเล็กน้อย แต่การฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นมีน้ำหนักมากกว่า ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red Lobster เพิ่มขึ้น QoQ แต่เป็นปกติตามฤดูกาล ขณะที่เทียบ YoY ส่วนแบ่งขาดทุนลดลงมาก เนื่องจากร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการได้ราว 97% เทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการปิดเมือง
คาดกำไร 2H64 อาจอ่อนตัวลงจาก 2Q64 บ้าง แต่ยังสดใส
สำหรับแนวโน้มใน 2H64 เราคาดว่ายอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวลงบ้างจากฐานที่สูงใน 2Q64 แต่หากเทียบ YoY คาดว่าจะยังเติบโตแข็งแกร่ง โดยการอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากการกลับมาปิดเมืองในบางประเทศ และการปิดโรงงานที่สงขลาที่พบพนักงานติดเชื้อไปราว 3 สัปดาห์ ซึ่งมีผลกระทบเล็กน้อย เราปรับประมาณการกำไรปี 64 ลงเล็กน้อยราว 5% จากประมาณการก่อนหน้าเหลือ 7,695 ล้านบาท เนื่องจากประมาณการเดิมคาดแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังและการฟื้นตัวของ Red Lobster ที่สูงเกินไป อย่างไรก็ตามภาพรวมกำไรปี 64 ยังสดใสคาดเติบโตถึง 23%YoY
ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากรอซื้อเมื่ออ่อนตัว
เราคงราคาเป้าหมายที่ 23 บาท อิงวิธี DCF ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก สะท้อนการคาดการณ์แนวโน้มกำไร 2Q64 ที่สดใส ทำให้ Upside ค่อนข้างจำกัด จึงแนะนำเพียง “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
ความเสี่ยง: ผลกระทบจาก COVID-19 ต่อบางธุรกิจของบริษัท