Our View? “พี่จีนมาเยือน!”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,670 /1,660 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,690 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.23 แสนตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.00 แสนตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน ธ.ค. ลดลงสูงระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 3.7% แม้จะสะท้อนกว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัวขึ้นได้ดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของแรงงานเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% YoY ต่ากว่าที่ตลาดคาด และชะลอตัวลง 0.6% MoM รวมทั้งตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของแรงงานเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 4.6% ต่ากว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 5.0% อีกทั้งดัชนีภาคบริการเดือน ธ.ค. โดย ISM ออกมาอยู่ที่ระดับ 49.6 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด และต่ำกว่าระดับ 50.0 บ่งบอกแนวโน้มการหดตัวของภาคการบริการของสหรัฐ คาดเป็นผลจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงก่อนหน้าเริ่มส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐแล้ว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐมีโอกาสจะเริ่มปรับลดลงได้ในระยะถัดไป ซึ่งเป็นปัจจัยให้ตลาดคาดหวังการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยและหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้คาดเป็นปัจจัยให้ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบแคบพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นบ้างแต่ยังอ่อนกำลังอยู่ปิดที่ระดับ 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.10 ดอลลาร์ (+0.14%) แม้จะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐบ้างตามความหวัง FED จะเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม คาดกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากเศรษฐกิจสหรัฐ-ยุโรปมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดยังเป็นแรงกดดันต่อทิศทางอุปสงค์และราคาพลังงานได้อยู่ อย่างไรก็ดี เรายังมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity อาทิหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GULF และ GPSC)
สำหรับปัจจัยในประเทศ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทย คาดจะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 11 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกินกว่า 25 ล้านคนได้ในปี’66 มองเป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK และ TKN รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่ม Health Care อาทิ BH, BDMS, BCH, PR9, WPH, CHG, EKH, MEGA และ HL จากคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีน คาดอาจส่งผลให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้น อีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก มองชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามาเพื่อใช้บริการฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งคาดทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดพยายามทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งที่ระดับ 33.6 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ คาดจะหนุนทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าได้ต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่ม Big Cap.
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “MBK”
กลยุทธ์ แนวรับ 18.20 / 18.00 Target 19.20 / 21.40 Stop <17.80