สรุปภาวะตลาด
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นถึง +11 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ตามมาด้วยกลุ่มการแพทย์ และค้าปลีก โดยนักลงทุนติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. ของสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,673.86 จุด +10.00 จุด +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 73,835 ลบ.ต่างชาติ +4,494.08 ลบ. TFEX +6,923 สัญญา ตราสารหนี้ +4,166.08 ลบ.
ปัจจัยบวก +
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 700.53 จุด +2.13% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวก 1.46% ขานรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7% รวมท้ังดัชนีภาคบริการของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพ่ิมข้ึน 10 เซนต์ +0.14% ปิดที่ 73.77 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 8.1% ในรอบ สัปดาห์ที่ผ่าน โดยปิดลบในสัปดาห์แรกของการซื้อขาย ในปีนี้ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ถดถอยและความต้องการใช้น้ำมัน
+ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาในภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 67.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับต้ังแต่เดือนม.ค. 2564 ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
+ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะพบกับจุดที่สดใส หลังจากประสบช่วงเวลาอันยากลำบาก และกำลังมุ่งหน้าไปสู่ “ท่ีราบสูงใหม่ (new plateau)” ซึ่งเป็นคำใช้เรียกการเติบโตที่ช้ากว่าแต่มั่นคง
ปัจจัยลบ –
– นายแจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งแอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) เตรียมสละอำนาจควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านฟินเทคของจีน โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรับโครงสร้าง หลังจากยกเลิกการเสนอขายหุ้น IPO ในเดือน พ.ย. 2563 มูลค่า 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์หากเกิดขึ้น
– สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิหร่านประหารชีวิตชาย 2 คนด้วยการแขวนคอ ในข้อหาสังหารเจ้าหน้าที่ความมั่นคง การประหารครั้งนี้เรียกเสียงประณามจากสหภาพยุโรป (EU) สหรัฐ และประเทศตะวันตกอื่นๆ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากการจ้างงานนอกภาคเกษตร และดัชนีภาคบริการของสหรัฐ บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐใน สัปดาห์นี้ คาดกรอบดัชนีในวันน้ีที่ 1,655-1,685 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
- การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
- หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
- หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
- หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
- หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
- หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL
หุ้นรายงานพิเศษ
VL – “มุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65- ปี 2566”
- งวด 3Q65 มีรายได้ 219 ลบ. +22%YoY +27%QoQ ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ส่งผลให้อัตราการใช้เรือดีขึ้นสู่ระดับ 80% จากปีก่อนเฉลี่ยที่ 60% ส่วนอัตราค่าบริการปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ประกอบกับ อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าสู่ 36.42 บาท/ดอลลาร์ +10%YoY +5.9%QoQ ส่งผลบวกต่อรายได้ขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ (สัดส่วน 37%) และสะท้อน %GPM ปรับดีขึ้นสู่ระดับ 22.3% (3Q64 = 17.9%, 2Q65 = 12.5%) ส่งผลให้ 3Q65 พลิกมีกำไร 25.1 ลบ. จาก 2Q65 ขาดทุน 6.1 ลบ. และ 3Q64 กำไร 8.2 ลบ. ส่วนงวด 9M65 มีกำไร 22 ลบ. +10%YoY
- ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 – ปี 66 ที่คาดจะมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง ตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ตลอดจนการเปิดประเทศจีนจะช่วยสนับสนุนปริมาณการใช้น้ำมันให้โตต่อเนื่อง นอกจากน้ี ในปี 66 บริษัทมีแผนขยายกองเรือเพิ่มอีก 2 ลำ สู่ท้ังหมด 14 ลำ เพื่อรองรับแนวโน้มการขนส่งน้ำมันทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับปี 66 มีเรือขึ้นซ่อมบำรุงเพียงแค่ 2 ลำ น้อยกว่าปี 65 ที่ 6 ลำ จะช่วยสนับสนุนแนวโน้มการเติบโตในปี 66
หุ้นมีข่าว
(+) EA (Bloomberg consensus 90.00 บาท) สยายปีกอาเซียน จับมือพันธมิตร CFM รุกอีวี มาเลเซีย เริ่มแรกนำเข้า เล็งตั้งโรงงานเมื่อหากยอดขายเกิน 1 พันคัน ภาพรวมธุรกิจปีนี้ อีวีโตแรง ส่งมอบรถไฟฟ้าพรึ่บ เตรียมจำหน่ายรถบรรทุกไฟฟ้าหัวลาก ครึ่งปีหลัง จุดเด่นต้นทุนขยายโรงงาน แบตเตอรีตามแผน ร่วมชิงไฟฟ้าหมุนเวียน ผ่านคุณสมบัติกว่า 10 โครงการ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) JWD (Bloomberg consensus 23.51 บาท) ปักธงรายได้ปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% วางงบ 3-4 พันล้านบาท รองรับการซ่อมบำรุง และควบรวมกิจการ แย้มอยู่ระหว่างศึกษาดีลใหม่มากกว่า 10 โปรเจ็กต์ คาดจะทยอยได้เห็นข้อสรุปในไม่ช้า ด้านการรวมกิจการ SCGL คาดจบกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2566 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PYLON (Bloomberg consensus 5.50 บาท) มองอุตสาหกรรมงานก่อสร้างฐานรากปี 2566 ฟื้น เตรียมรับงานใหญ่รถไฟฟ้าสายสีม่วง-ส้ม และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แย้มทั้งปี ประมูลงานทั้งหมด 10,000 ล้านบาท เติมแบ็กล็อกปัจจุบันที่ 1,600 ล้านบาท รับรู้รายได้ปีนี้ทั้งหมด ตั้งเป้ารายได้รวมปีกระต่ายเติบโตมากกว่าปีก่อนที่ราว 1,200-1,300 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PIMO (Bloomberg consensus 4.58 บาท) ชูแผนงานปี 2566 ตั้งเป้ากวาดรายได้แตะ 1.3 พันล้านบาท จากปี 2565 ลุ้นทะลุ 1.2 พันล้านบาท ส่งซิกลูกค้ารายใหญ่ป้อนออเดอร์เพียบ ล่าสุดบอสใหญ่ “วสันต์ อิทธิโรจนกุล” ยื่นขอใบอนุญาตผลิตมอเตอร์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย หวังขยายฐานแถบตะวันออกกลาง ชี้มอเตอร์ AC กำลังผลิต 9 หมื่นลูกต่อเดือน ส่วน BLDC 140 ลูกต่อวัน พร้อมเดินหน้าผลิตเต็มแม็กซ์ (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทยแถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
- ตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะซื้อขายหลักทรัพย์
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
- 25 ม.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566
- กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
- 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
- 6 ก.พ. พาณิชย์รายงาน CPI เดือนม.ค.
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 9 ม.ค. อียูรายงานอัตราว่างงานเดือนพ.ย.
- 10 ม.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน พ.ย.
- 11 ม.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 12 ม.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.
- สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.
- 13 ม.ค. จีน รายงานยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนธ.ค.
- อียูรายงานดุลการค้าเดือนพ.ย.
- 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย