Our View? “ลุ้นไปต่อ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,680 / 1,675 และแนวต้านที่บริเวณ 1,695 / 1,700 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังเมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค. ออกมาที่ระดับ +6.5% YoY และ -0.1% MoM ตามที่ตลาดคาด ซึ่งถือเป็นการลดลง MoM ครั้งแรงในรอบหลายเดือน ขณะที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานที่ตัดอาหารและพลังงานออกไป (Core CPI) เดือน ธ.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ +5.7% YoY และ +0.3% MoM ตามที่ตลาดคาดไว้เช่นกัน  สะท้อนทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐในระยะสั้นเริ่มหดตัวลงบ้างเล็กน้อย กระตุ้นความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการขึ้นดอกเบี้ยเดือน ก.พ. นี้ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ระดับ 5.00% ต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 5.25% กดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่ระดับ 102.24 ทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.4674% คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ดี เราแนะนําให้ติดตามถ้อยแถลง FED หลังการประชุม FOMC เดือน ก.พ. เพื่อประเมินแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินของ FED ในปีนี้อีกครั้ง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WI. ส่งมอบเดือน ก.พ. ยังอยู่ในภาพของการรีบาวด์ขึ้นปิดที่ระดับ 78.39 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.98 ดอลลาร์ (+1.27%) ยังคงได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากความคาดหวังอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นจากการที่จีนเปิดประเทศ อีกทั้งคาดการณ์การผลิตน้ำมันของรัสเซียคาดจะลดลงต่อเนื่องจากการออกมาตรการคว่ำบาตรของหลายๆ ประเทศ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์กลับขึ้นบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรายังมองความเสี่ยงในด้านของสหรัฐ-ยุโรปมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดยังเป็นปัจจัยจํากัด Upside ของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานได้อยู่

สําหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์หน้า เราแนะนำติดตามการเริ่มรายงานผลประกอบการ 4Q’65 ของหุ้นในกลุ่มธนาคาร คาดมีโอกาสชะลอตัวลงไปบ้างเล็กน้อยตามปัจจัยฤดูกาล มองเป็นปัจจัยระยะสั้นหนุนแรงขายทำกำไรได้บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้า ประเทศไทยราว 1 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยว ต่างชาติในปีนี้เกินกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 ล้านคนได้ในปี’66 เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA,CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB และ TKN รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่ม Health Care อาทิ BH, BDMS, BCH, PR9, WPH, CHG, EKH, MEGA และ HL จากคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีน คาดอาจส่งผลให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก มองชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามาเพื่อใช้บริการฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพมากขึ้น

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้

กลยุทธ์

“BAFS” ย่อซื้อ แนวรับ 32.50 / 31.50 Target 35.50 / 37.50 Stop <30.75

“HL” ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 25.00 / 24.60 Target 27.00 / 29.00 Stop <24.40

- Advertisement -