Daily Focus: Test 1,695-1,700

2023SET Target : 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways โดยพักตัวในช่วงต้นชั่วโมงการซื้อขาย โดยแรงขายยังอยู่ในกลุ่ม Reopening Play ที่ Outperform ในช่วงก่อนหน้า แต่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน เป็นต้น เข้ามาหนุนให้ดัชนียังปิดบวกได้เล็กน้อย 1.70 จุด สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 652 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางลงเช่นกันเหลือ 388 ลบ. (และ Short Index Futures เร่งขึ้นเป็น 1.6 หมั่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ฟื้นตัวขึ้นทดสอบ High เดิมบริเวณ 1,695-1,700 จุด ได้อานิสงส์จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ที่ชะลอตัวลงตามคาด ส่งผลให้ Dollar Index และ Bond Yield ปรับตัวลงต่อเนื่อง เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้ฟื้นตัว โดยเฉพาะหุ้นที่เคยเทรด Valuation สูงๆ ในช่วง 1-2 ปีก่อน เช่น หุ้น Growth หุ้น Tech ตลาดคาด FED จะชะลอขึ้นดอกเบี้ยเหลือครั้งละ 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. และ มี.ค. ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยทำจุดสูงสุดที่ 4.75-5% ต่ำกว่า Dot Plot ที่มอง 5-5.25% ส่วนปัจจัยในประเทศ โดยรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ โฟกัสยังอยู่ที่การทยอยประกาศกำไร 4Q22 เริ่มที่กลุ่มธนาคาร รวมถึงการเมืองในประเทศที่เข้าใกล้การเลือกตั้งทั่วไปมากขึ้น และมีโอกาสเกิดการยุบสภาก่อนครบเทอม ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้น Growth และ Tech ซึ่ง Laggard ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ส่วนระยะกลาง-ยาวยังชอบกลุ่ม Domestic/Reopening Play โดยมองจังหวะพักฐานเป็นโอกาสทยอยสะสม

กลยุทธ์ : ระยะสั้นเก็งกำไรหุ้น Growth และ Tech ที่ Laggard ตลาด // ระยะกลาง-ยาวยังชอบ Domestic และ Reopening Play

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : CENTEL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 58 บาท
  • คาด 4Q22 พลิกมีกำไร 325 ลบ.จากขาดทุนใน 3Q22 และ 4Q21 หนุนจากทั้งธุรกิจโรงแรมที่คาด RevPar ฟื้นตัวแรงเข้าใกล้ช่วงก่อน COVID-19 ตามการเปิดประเทศ ขณะที่ธุรกิจอาหารมี SSSG เป็นบวกแข็งแรงต่อเนื่องจากการบริโภคที่ฟื้นตัว
  • เราคาดผลการดำเนินงานปี 2022 พลิกมีกำไรได้ 225 ลบ. ขณะที่แนวโน้มปี 2023 คาดเร่งตัวอย่างมีนัยยะโดยคาดกำไร +850% Y-Y จากการเปิดประเทศเต็มปี ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 58 บาท แนะนำ “ซื้อ”
  • แนวรับ 49.50-49//48 บาท แนวต้าน 52-52.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคอีก US$372 ล้าน แต่กระจุกตัวที่เกาหลีใต้ US$344 ล้าน ส่วนไต้หวันและอาเซียนอื่นๆ ไหลเข้าบางๆ มีเพียงอินโดนีเซียที่ยังไหลออกอีก US$30 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังไหลเข้าต่อเนื่อง หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ชะลอตามคาด หนุน Dollar Index และ Bond Yield ปรับลง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) เงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯเดือน ธ.ค. ชะลอตามคาด เงินเฟ้อทั่วไป -0.1 M-M, +6.5% Y-Y ชะลอตัวจากเดือน พ.ย. ที่ +0.1% M-M, +7.1% Y-Y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.3% M-M เร่งขึ้นเล็กน้อยจากเดือน พ.ย. ที่ +0.2% M-M แต่ +5.7% Y-Y ลดลงจาก +6% Y-Y เดือนก่อนหน้า ทำให้ตลาดเพิ่มน้ำหนักเป็น 95% ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. นี้ Bond Yield ปรับตัวลงแรงเช่นเดียวกับ Dollar Index คาดหวังดอกเบี้ยใกล้ Peak ที่ 4.75-5% ในเดือน มี.ค. หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง (+) BCP เรามองดีลซื้อกิจการ ESSO เป็นบวก โดยราคาซื้อเบื้องต้นค่อนข้างดี โดยหากอิงกำไรปี 2023 จาก Bloomberg Consensus คิดเป็น PER ราว 5-6 เท่า ซึ่งค่อนข้างต่ำ ด้าน Operation ภาพรวมไม่มีส่วนที่ทับซ้อนกันมาก ทำให้คาดว่าจะเห็นผลบวกทั้งในแง่การขยายขนาดธุรกิจได้เร็ว รวมถึง Synergy จาก Operation ภายใน รวมถึงทำให้ BCP ก้าวเป็นผู้เล่นใหญ่อันดับ 2 ในตลาดทิ้งห่างอันดับ 3 อย่างชัดเจน ส่วนประมาณการกำไรคาดมี Upside เบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20% ถึงประมาณการกำไรทั้ง BCP และ ESSO จาก Bloomberg Consensus ภายใต้สมมติฐานกู้ 100% และสัดส่วนการเข้าถือหุ้นที่ 66% เรายังชื่นชอบ BCP แนะนำ “ซื้อ”

(+) SC คาดกำไร 4Q22 +20% Q-Q, +44% Y-Y เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีจากการโอนโครงการ SCOPE หลังสวนและพร้อมศรี รวมถึง JV The Crest Park Residence รวมถึง โครงการแนวราบที่ยังแข็งแรง หนุนให้ทั้งปี 2022 คาดกำไร +15% Y-Y แนวโน้มปี 2023 คาดยังเป็นปีที่แข็งแรงสำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯที่มีฐานลูกค้าระดับกลาง-บนจาก Demand ที่ แข็งแรงและเศรษฐกิจที่ฟื้น รวมถึงได้อานิสงส์จากลูกค้าต่างชาติที่กลับมา เราคาดกำไรปี 2023 +6% Y-Y ส่วน Dividend Yield งวด 2H22 คาดที่ 3.5% คงราคาเป้าหมาย 5 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 216.96 จุด หรือ +0.64% ปิดที่ 34,189.97 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ชะลอตัวในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดคาดว่า FED อาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก นำโดยหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และความคาดหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐชะลอ เพิ่มความหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดลงจากการแข็งค่าของเงินเยนฉุดหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวลง

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 33.14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 78.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลง และการเปิดประเทศของจีน ในขณะที่เช้านี้ย่อตัวลงที่ระดับ 78.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.08%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ระดับ 1,898.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า FED จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลง ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,901.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.12%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 912.14 / -0.29

- Advertisement -