บล.เอเซีย พลัส:

คาดกําไรงวด 4Q65 โตได้แค่ QoQ

เราประเมินว่า HMPRO จะมีกําไรสุทธิงวด 4Q65 ที่ 1.64 พันล้านบาท (+7% QoQ, -8% YoY) โดยการเติบโต QoQ เป็นเพราะผลบวกของฤดูกาลที่ช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้ ส่วนกําไรที่ชะลอ YoY เนื่องจากรายได้ยังโตได้ไม่พอจะชดเชยค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะค่าไฟและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่สูงขึ้น

เนื่องจากแนวโน้มกําไร 4Q65 ที่ไม่ได้โตแรงอย่างที่เคยคาด ทําให้ประมาณการกําไร ปี 2565 มี downside ราว 3% – 4% บวกกับแรงกดดันด้านค่าใช้จ่ายในปี 2566 ทําให้เรามีแนวโน้มที่จะปรับลดประมาณการกําไรปี 2566-67 ลง เบื้องต้นคาดจะทําให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ 18.70 บาท ลดเหลือ 17.00 บาท – 17.50 บาท จึงแนะนํา “ทยอยซื้อ” เมื่อราคาอ่อนตัว

กําไรสุทธิ 4Q65 โตได้แค่ QoQ

เราประเมินว่าในงวด 4Q65 HMPRO จะมีกำไรสุทธิราว 1.64 พันล้านบาท (+7% QoQ, -8% YoY) โดยกำไรสุทธิที่คาดจะเติบโตได้ QoQ เพราะคาดรายได้เติบโตขึ้นเป็น 1.68 หมื่นล้านบาท (+6% QoQ) เนื่องจาก 1) ผลของฤดูกาล ที่ผู้บริโภคมักจะมีการจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ ในช่วงปลายปีสูงกว่าไตรมาสอื่นๆ รวมทั้งสิ้นสุดฤดูฝนลงไปแล้วตั้งแต่ ต.ค. ทำให้มีการปรับปรุง/ซ่อมแซมบ้าน และซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้าง ตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น และ 2) บริษัทมีการจัดงาน “โฮมโปร เอ็กซ์โป” ช่วงปลายปี 2565 เพื่อผลักดันรายได้ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะอยู่ที่ 26.9% ค่อนข้างใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน แต่การเติบโตของกำไรจะถูกหักล้างไปบางส่วนจากค่าใช้จ่ายในขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A/Sale) ที่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 21.0% จากเดิม 20.9% ในงวด 3Q65 ตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง และค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามการเพิ่มค่า FT รอบล่าสุด ตั้งแต่ ก.ย. 65

ส่วนกำไรที่คาดจะชะลอตัว YoY แม้รายได้จากการขายสูงขึ้น 4% YoY โดยคาดเป็นผลจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) 2.5% YoY และการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง นอกจากนี้คาดรายได้จากพื้นที่เช่าและรายได้อื่นๆ จะเพิ่มขึ้น 2% YoY เป็น 1.2 พันล้านบาท หลังอัตราการให้เช่าใช้พื้นที่ (Occupancy rate) ที่ขยับสูงขึ้น รวมถึงการให้ส่วนลดพื้นที่เช่าที่ลดลง แต่รายได้เติบโตขึ้นดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ค่าใช้จ่ายในการจัดอีเวนท์นอกสถานที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับในงวด 4Q64 ที่ส่วนใหญ่เป็นการจัดอีเวนท์ภายในสาขาของบริษัทเอง

กำไรปี 65 มี downside..ปี 66 อาจเร่งตัวได้ช้ากว่าที่เคยคาด

หากกำไรสุทธิงวด 4Q65 เป็นไปอย่างคาด จะทำให้กำไรโดยรวมของทั้งปี 2565 อยู่ที่ราว 6.2 พันล้านบาท ซึ่งจะมี downside ราว 3% – 4% จากคาดการณ์กำไรปี 2565 ที่ฝ่ายวิจัยเคยประเมินไว้ ขณะที่ผลบวกจากมาตรการ “ช้อปที่มีคืน” ในช่วงต้น 1Q66 ยังไม่มากเท่ากับในปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาสินค้าและบริการในปี 2566 สูงขึ้นจากปีก่อน ขณะที่มาตรการครั้งนี้สามารถใช้จ่ายเพื่อการบริโภคได้หลากหลายขึ้น เช่น เติมน้ำมัน และบริโภคในร้านอาหาร ทำให้ผู้บริโภคหันไปจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันก่อนแทนการจับจ่ายในการซื้อสินค้าอุปโภคที่มีราคาสูง รวมทั้งสินค้าของบริษัทด้วย นอกจากนี้ปี 2566 ยังต้องเผชิญแรงกดดันจากค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ประกอบการที่ขยับขึ้นตามค่า FT ที่ปรับขึ้นตั้งแต่ต้นปีถึง 289% จากค่าเฉลี่ยในปี 2565 ซึ่งอาจทำให้ การเร่งตัวของกำไรมีแนวโน้มต่ำกว่าที่เราเคยคาดไว้

แนะนํา “ทยอยซื้อ” เมื่อราคาอ่อนตัว

จากแนวโน้มกําไรงวด 4Q65 และปี 2566 ที่อาจไม่สดใสมากอย่างที่เราเคยคาด จากการที่กําไร 4Q65 มีแนวโน้มจะไม่สามารถเติบโตได้ YoY และแรงกดดันด้านค่าใช้จ่ายในปี 2566 ทําให้เราเตรียมจะปรับลดประมาณการกําไรปี 2566-67 จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท และ 7.9 พันล้านบาท ตามลําดับ ภายหลังจากการประกาศผลประกอบการ งวด 4Q65 ในช่วงเดือนหน้า ทั้งนี้เบื้องต้นประเมินว่าจะทําให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 18.70 บาท ลดเหลือ 17.00 บาท – 17.50 บาท ซึ่งมี upside เหลืออยู่ราว 10% – 14% เราจึงแนะนํา “ทยอยซื้อ” HMPRO เมื่อราคาอ่อนตัว

การดำเนินงานด้าน ESG ของ HMPRO

E – Environment: สนับสนุนการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Consumption) ผ่านการพัฒนาและการสนับสนุนกลุ่มสินค้า ECO Product โดยมีสินค้ากลุ่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้ากลุ่มประหยัดพลังงาน สินค้ากลุ่มประหยัดน้ำ สินค้ากลุ่มรักษาป่าไม้ สินค้ากลุ่มลดก๊าซเรือนกระจกสินค้ากลุ่มสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งในปี 2564 บริษัทฯ มีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า ECO Product ร้อยละ 43.2 และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า ECO Product เป็นร้อยละ 50 ภายในปี 2568 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการยกระดับกลุ่มสินค้า ECO Product คัดสรรเป็นกลุ่มสินค้า ECO CHOICE เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค รวมทั้งส่งเสริมการใช้สินค้าพลาสติกอย่าง มีความรับผิดชอบ (Responsible Plastic Consumption)

S – Social: บริษัทฯ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เพื่อจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพื่ออำนวยความสะดวก บุคลากรทางการแพทย์ และอำนวยความสะดวกให้ผู้รับวัคซีนอย่างครบครันและทั่วถึง รวมถึงสร้างโรงพยาบาลสนามจังหวัดนนทบุรี เพื่อรองรับผู้ป่วย ช่วยลดภาระ และช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ ศูนย์กระจายสินค้า DC Center โดยมีทีมแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลราชธานี ให้การดูแลรักษาพนักงานคู่ค้า รวมถึงผู้ป่วยจากชุมชนรอบข้าง เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง

G – Governance: บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ยึดถือหลักธรรมาภิบาล มีจริยธรรมและโปร่งใส ให้ความสำคัญและส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ มีกระบวนการคัดเลือกและการปฏิบัติต่อคู่ค้าเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการมีคู่ค้าที่มีชื่อเสียงที่ดี มีการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม (Ethical Sourcing) ความเป็นมืออาชีพ คำนึงถึงประเด็นสังคม

ประเด็นความเสี่ยง

  1. เศรษฐกิจ ชที่ชะลอตัวเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้กําลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
  2. การแข่งขันที่สูงในอุตสหกรรม
  3. การแย่งลูกค้ากันเองของสาขาที่เปิดบริเวณใกล้เคียงกัน
- Advertisement -