เข้าสู่ Earning season กลุ่มแบงค์ // จับตา GDP จีน
ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,681.73 จุด ลดลง 5.72 จุด (- 0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 87,659.72 ล้านบาท รับแรงขายหุ้น DELTA ซึ่งส่งผลกดดันดัชนีราว 4 จุด รวมถึงนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการซื้อ Spot แต่กลับไป Short ฟิวเจอร์
แนวโน้มตลาดวันนี้… ให้น้ำหนักกับผลประกอบการกลุ่มธนาคารที่คาดว่าจะขยายตัวเด่น YoY จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นหนุน NII และ Non NII ที่เป็นช่วง high season รวมถึงการตั้งสำรองที่ลดลง ทั้งนี้เรายังคงให้น้ำหนัก Overweight ของกลุ่มธนาคารในภาพระยะกลาง-ยาว ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่เป็นส่วนสำคัญ ขณะที่ระยะสั้นคาดว่าอาจเห็น sell on fact ของกลุ่ม หลังประกาศงบ SWITCH แบงค์ใหญ่มา “สะสม” แบงค์ที่จ่ายปันผลสูงอย่าง TISCO และ KKP ส่วนปัจจัยต่างประเทศจับตา BoJ ที่อาจจะจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ (รอบปกติจะจัดประชุมวันที่ 18 ม.ค.) คาดว่าจะทบทวนผลกระทบของการใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ ซึ่งล่าสุด PPI ธ.ค. ออกมาสูงกว่าคาดมาที่ระดับ 10.2%YoY จะกดดันการใช้นโยบ่ายที่ผ่อนคลายทางการเงินของ BoJ มากขึ้น
สัปดาห์นี้ ติดตาม … 1) GDP 4Q65 จีน ตลาดคาดขยายตัวเพียง ด.ต 1.8%YoY ชะลอตัวจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 3.9% ส่งผลให้ทั้งปีขยายตัวเพียง 2.8%YoY เนื่องจากเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนในปี 2564 นั้น ตัวเลข GDP จีนขยายตัวสูงถึง 8.4% 2) CPI ธ.ค. EU คาดทรงตัว 9.2%YoY 3) PPI ธ.ค. สหรัฐ คาดชะลอตัวลงเหลือ +0.2%MoM จากเดือนก่อนที่ +0.3%MoM และเข้าใกล้เทศกาลตรุษจีน
กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway แนะนำ Trading ในกรอบ 1672-1694 โดย Selective buy ใน
- กลุ่มกลุ่มสื่อสาร TRUE DTAC THCOM
- กลุ่ม China reopening AOT AAV AMATA BAFS SNNP SPA EKH ANAN SISB
- กลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ PTTEP PTTGC IRPC BCP
เคาะไป คุยไป…..CENTEL
- โรงแรม คาด 4Q65 จะมี OCC จะเฉลี่ยอยู่ที่ 60% จากเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและตะวันออกกลาง ขณะที่ประเทศไทย สถานการณ์การแพร่ ระบาดของโควิด-19 ก็เริ่มดีขึ้น
- ได้ประโยชน์จากจีนผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID และเปิดประเทศเร็วกว่าคาดตั้งแต่ 8 ม.ค. ขณะที่เป็นช่วง high season ของอุตสาหกรรมทําให้แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัว
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขึ้น ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นหลังจากเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มธนาคาร รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากอังกฤษ
(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งขึ้น จากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และมีสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีนซึ่งเป็นประเทศนำเข้าน้ำมันรายใหญ่
(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐชะลอตัวลง และคาดว่าจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ประเด็นเด่นวันนี้
- ผู้เชี่ยวชาญชี้ โควิดจีนจะระบาดต่อเนื่อง 2-3 เดือน ขณะที่ทั่วโลกจับตา GDP 4Q65 ของจีน นักระบาดวิทยาระดับสูงของจีนเผยการติดเชื้อในจีนจะแพร่กระจายไปอีก 2-3 เดือน โดยจะเริ่มลุกลามไปในพื้นที่ชุมชนที่ขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์ ขณะที่ทั่วโลกจับตาตัวเลข GDP ใน 4Q65 ของจีน โดยทางฝ่ายมองตัวเลข GDP ที่จะประกาศจะยังอิงทิศทางชะลอตัว เนื่องจากอยู่ในช่วงแพร่ระบาด Covid-19 จึงเป็นไปได้ที่ตัวเลขดังกล่าวอาจจะยังไม่กดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม เนื่องจากตลาดได้รับรู้ข่าวดังกล่าวไปมากแล้ว อย่างไรก็ดี หากการแพร่ระบาดยังกินเวลาไปอีก 2-3 เดือนจริง และทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั่วโลกอาจเริ่มกลับมากังวลต่ออุปสงค์ในพลังงาน และการฟื้นตัวของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน ซึ่งเป็นไปได้ที่จะทำให้เม็ดเงินไหลกลับสู่ Emerging Market อีกครั้งในฐานะประเทศที่ฟื้นตัวหลังภาวะโควิดได้เร็ว
- โพล Bloomberg ชี้ ธนาคารกลางในเอเชีย รวมถึง ธปท. ยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ยใน 1Q66 โดยมองธนาคารกลางไทย ฟิลลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5% ในไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนจะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป มุมมองดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาด ธปท. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในอีกสองรอบการประชุม ทำให้มองอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 1.75% ในสิ้นปีนี้ ทำให้เรามองแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในระยะกลางจะลดน้อยลงเป็นบวกต่อกลุ่มดังกล่าว แต่ภาพดอกเบี้ยขาขึ้นที่เคยหนุนกลุ่มธนาคารจะมีผลน้อยลง
